
สรุปข่าว
ภาพของนักการเมืองเกาหลีใต้ ที่พยายามฝ่าฝูงทหารที่ปิดล้อมรัฐสภา พร้อมความช่วยเหลือจากประชาชน เพื่อเข้าไปโหวตยกเลิกกฏอัยการศึก เป็นตัวบ่งชี้ชัดเจนว่า พวกเขาไม่ต้องการกฎอัยการศึกนี้.. คำถามคือ ทำไมคนเกาหลีใต้ถึงกลัว “กฎอัยการศึก” และยืนหยัด “ปกป้องประชาธิปไตย” ถึงเพียงนี้?
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ คนหนุ่ม-สาวชาวเกาหลีใต้ เผชิญภาวะอัยการศึกแม้เพียงเวลาสั้น ๆ แต่สำหรับคนรุ่นเก่าและรุ่นเก๋า.. นั่นคือสิ่งที่กระตุ้นเตือนพวกเขานึกถึงประวัติศาสตร์อันดำมืดในอดีตเป็นบาดแผลฝังใจ ที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ .. และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาไม่ต้องการมันอีก
เกาหลีใต้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 เคยเคยปกครองภายใต้ระบอบทหารมาก่อนในช่วงที่เกิดสงครามเย็น - เคยเกิดการประท้วงรัฐบาลทหารจากทั้งฝ่ายสหภาพแรงงานและกลุ่มนักศึกษาเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งในปี 1979 ภายหลังจากเหตุลอบสังหารนายพล “พัค ชุงฮี” ผู้ที่รู้จักว่าเขาคือ “จอมเผด็จการ” ที่ไม่มีใครโค่นล้มได้ ผู้เคยประกาศใช้กฎอัยการศึกหลายครั้ง เพื่อปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง นับตั้งแต่ที่เขาเรืองอำนาจ
ดูเหมือนเมื่อไร้ “พัค ชุงฮี” รากฐานของประชาธิปไตยจะเริ่มเบ่งบานในเกาหลีใต้ เกิดขบวนการสนับสนุนประชาธิปไตยมากขึ้นเพื่อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การปกครองแบบประชาธิปไตยรวมไปถึงเพิ่มสิทธิต่าง ๆ ให้ประชาชน แต่แล้ว 1 ปีต่อมาในปี 1980 เกาหลีใต้เกิดรัฐประหารที่นําโดยนายพล “ชุน ดูฮวาน” ที่ทำให้ดอกไม้แห่งประชาธิปไตยที่กำลังเบ่งบานนั้นหยุดชะงัก มีการประกาศกฎอัยการศึกครั้งสุดท้าย (ก่อนที่ยุน ซ็อก ย็อล ประกาศเมื่อคืนนี้) โดยอ้างภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แบนทุกกิจกรมทางการเมือง ปิดโรงเรียน และจับกุมผู้เห็นต่าง ... แต่ชาวเกาหลีใต้ไม่ยอมแพ้
กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากออกมารวมตัวต่อต้านรัฐประหารจนเกิดจลาจลที่จังหวัดกวางจู จนในที่สุดก็เกิด “เหตุสังหารหมู่กวางจู” ที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ เพราะรัคณะรัฐประไารล้อมปราบและการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนอย่างไร้มนุษยธรรม จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย แต่รายละเอียดของการสังหารหมู่ซึ่งรั่วไหลออกมาแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามควบคุมข้อมูลอย่างเข้มงวด ช่วยขับเคลื่อนขบวนการสนับสนุนประชาธิปไตยของประเทศ
หลังจากยุคสมัยของนายพล “ชุน ดูฮวาน” เกาหลีใต้ยังคงปกครองด้วยระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จจนถึงปี 1988 - ก่อนที่ “โร แทวู” เพื่อนรักวัยเด็ก และผู้สมคบคิดคนสำคัญของเขา จะได้รับเลือกขึ้นเป็นประธานาธิบดีโดยตรงในเวลาต่อมา ต่อไปจนถึงในปี 1992 ก่อนจะเริ่มมุ่งสู่เส้นทางประชาธิปไตยเต็มใบ เมื่อนาย “คิม ยังซัม” นักการเมืองพลเรือนได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจนจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนได้สำเร็จ และนำเกาหลีใต้เข้าสู่ยุคประชาธิปไตยอย่างแท้จริง หลังจากที่ทหารปกครองและเป็นผู้นำประเทศมาเป็นระยะเวลาถึง 30 ปี และนับตั้งแต่นั้นมาเกาหลีใต้ไม่ได้หวนกลับไปปฏิวัติรัฐประหารอีกเลย
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชาวเกาหลีใต้ต้องการปกป้องประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด ที่พวกเขาไม่ต้องการกลับไปวนลูปกับความรุนแรงเช่นในอดีตอีกแล้ว ในที่สุดเกาหลีใต้จึงกลายเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบอบประชาธิปไตยหยั่งรากลึกอยู่ในสังคมอย่างเข้มแข็ง
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand