ม็อบฮ่องกงท้าทายกฎหมายฉุกเฉินห้ามสวมหน้ากากชุมนุม

วันนี้ (6ต.ค.61) วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยประจำสุดสัปดาห์ ในเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน ผู้ประท้วงยังคงท้าทายการประกาศกฎหมายฉุกเฉินห้ามการสวมหน้ากากชุมนุม ของรัฐบาลฮ่องกง โดยพากันสวมหน้ากาก พร้อมกับกางร่ม ออกมาร่วมชุมนุมกันอย่างคึกคัก กลางสายฝนและเสียงฟ้าร้อง 

ผู้ประท้วงมาร่วมตัวกันตั้งแต่ตอนกลางวัน ที่เขตคอสเวย์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ , ศูนย์กลางการค้า และแหล่งบันเทิง  จากนั้น เริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งสู่ที่ตั้งทำเนียบและหน่วยงานรัฐบาล แต่ถูกตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสกัด อีกจุดหนึ่งที่ผู้ประท้วงมารวมตัวกันคือบนฝั่งเกาลูน โดยขณะเคลื่อนขบวนไปบนถนน นาทาน หรือ นาทาน โรด ( Nathan Road) ผู้ประท้วงต่างร้องตะโกนอย่างโกรธแค้น / เรียกร้องให้ชาวฮ่องกงลุกขึ้นต่อสู้ เพื่อเสรีภาพ  นอกจากนั้น ยังร้องเพลง “กลอรี่ ทู ฮ่องกง ( Glory to Hongkong) หรือ “เกียรติศักดิ์ฮ่องกง” ซึ่งในหมู่ผู้ประท้วงถือกันว่า เป็นเพลงชาติของฮ่องกง 

การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ที่ยืดเยื้อมานานกว่า  4 เดือน เพิ่มระดับความรุนแรงขยายวงกว้างทั่วเกาะฮ่องกงในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันฉลองวันชาติจีน และรุนแรงอีกครั้งเมื่อคืนวันศุกร์ ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นาง แครี แลม หัวหน้าผู้บริหารเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉิน ห้ามผู้ประท้วงสวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าระหว่างเข้าร่วมการชุมนุม ในที่สาธารณะ เป็นการนำกฎหมายฉุกเฉินสมัยอาณานิคมมาใช้เป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี/ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยผู้ฝ่าฝืนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือปรับเป็นเงิน 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 97,000 บาท

ความเสียหายจากการประท้วงในวันศุกร์ ทำให้นางแลม ออกมาแถลงประณามผู้ประท้วงเป็นผู้ก่อจลาจล โดยการประท้วงในคืนวันนั้น ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาสถานีรถไฟใต้ดินและขบวนรถไฟ ซึ่งโชคดีไม่มีผู้โดยสาร   นอกจากนั้น ยังทุบทำลายทรัพย์สิน ตามสถานที่ราชการ ,ร้านค้า ที่มองว่าสนับสนุนจีน และยังทำร้ายตำรวจนายหนึ่ง ที่ออกเวรแล้ว ในเขตหยวนหลง ทำให้ เขาต้องยิงป้องกันตัว / กระสุนไปถูกผู้ประท้วง ซึ่งเป็นเด็กชาย วัย 14 ปีได้รับบาดเจ็บ

การประท้วงรุนแรงเมื่อวันศุกร์ ทำให้ ธนาคาร, ห้างสรรพสินค้า , ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร พากันปิดทำการในวันเสาร์ ร่วมทั้งระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ซึ่งมีผู้ใช้บริการ 5 ล้านคนต่อวัน ระงับให้บริการทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้การเดินทางสัญจรเป็นอัมพาตเกือบทั้งเมือง  กระทั่งระบบรถไฟใต้ดินกลับมาเปิดให้บริการได้เพียงบางส่วนในวันนี้ 

 ด้านนางมิเชล  บาเชเล็ต   ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้อง ให้รัฐบาลฮ่องกงเปิดการสอบสวนเหตุรุนแรงในระหว่างการประท้วง ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บจนถึงขณะนี้แล้วกว่า 1,100 คน พร้อมกับประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบจากทุกฝ่าย  และเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมหาทางออกด้วยการเจรจา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยูเอ็นร้องสอบเหตุรุนแรงในฮ่องกง หลังมีคนเจ็บหลายราย

ผู้นำฮ่องกงประณามผู้ประท้วง-ต่างชาติเตือนระวังเหมือน “เทียนอันเหมิน”

ผู้ชุมนุมเมิน “ห้ามใส่หน้ากาก” รวมตัวสวมท้าทายเดินขบวน

รถไฟฟ้าฮ่องกงปิดทั้งเกาะ! หลังวางเพลิงหลายสถานี

เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand