
การปะทะฝีปากกันระหว่าง อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นข่าวที่คนทั่วโลกติดตาม เพราะคนหนึ่งก็เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ส่วนอีกคนก็เป็นผู้นำของประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และทั้งสองคนเคยเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นและสนิทสนมกันมากในช่วงหาเสียง จนถึงตอนที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง และกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งหลังจากที่มัสก์ตัดสินใจถอนตัวออกจากการทำงานให้กับรัฐบาลของทรัมป์ ในฐานะหัวหน้าของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DODGE มัสก์ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหลายอย่างของทรัมป์
โดยมัสก์ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ระบุว่าเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายของสภาคองเกรสที่เต็มไปด้วยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นความน่ารังเกียจที่น่าสะอิดสะเอียนจริง ๆ
ในช่วงแรก ทรัมป์พยายามจะไม่ตอบโต้มัสก์ และยืนยันว่าเขากับมัสก์ จากกันด้วยดี แต่ล่าสุด ทรัมป์ออกมาบอกว่าเขาผิดหวังในตัวมัสก์มาก และบอกว่านี่อาจจะเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ที่เคยดีระหว่างทั้งสองคน
จากนั้น มัสก์ก็กล่าวหาทรัมป์ต่อว่า เป็นพวกไม่สำนึกในบุญคุณ โดยบอกว่า หากไม่มีมัสก์ช่วยหาเสียง ทรัมป์ก็แพ้เลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว มัสก์ประกาศสนับสนุนทรัมป์ และช่วยทรัมป์หาเสียงแบบทุ่มสุดตัว พร้อมสนับสนุนเงินหาเสียงให้ทรัมป์อีก 290 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ก็ได้มอบตำแหน่งสำคัญให้กับมัสก์
แต่มัสก์ก็ตัดสินใจลาออกหลังจากทำงานให้ทรัมป์ได้ 129 วัน จากการโดนกระแสต่อต้านอย่างหนัก ที่ทำให้หุ้นและยอดขายของเทสลาตกต่ำ เพื่อกลับมาทำงานให้เทสลาอย่างเต็มที่อีกครั้ง และเริ่มออกมาวิจารณ์นโยบายของทรัมป์ จนกลายเป็นจุดแตกหักความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
สรุปข่าว
การปะทะฝีปากกันระหว่าง อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นข่าวที่คนทั่วโลกติดตาม เพราะคนหนึ่งก็เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ส่วนอีกคนก็เป็นผู้นำของประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และทั้งสองคนเคยเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นและสนิทสนมกันมากในช่วงหาเสียง จนถึงตอนที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง และกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งหลังจากที่มัสก์ตัดสินใจถอนตัวออกจากการทำงานให้กับรัฐบาลของทรัมป์ ในฐานะหัวหน้าของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DODGE มัสก์ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์นโยบายหลายอย่างของทรัมป์
โดยมัสก์ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ระบุว่าเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายของสภาคองเกรสที่เต็มไปด้วยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นความน่ารังเกียจที่น่าสะอิดสะเอียนจริง ๆ
ในช่วงแรก ทรัมป์พยายามจะไม่ตอบโต้มัสก์ และยืนยันว่าเขากับมัสก์ จากกันด้วยดี แต่ล่าสุด ทรัมป์ออกมาบอกว่าเขาผิดหวังในตัวมัสก์มาก และบอกว่านี่อาจจะเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ที่เคยดีระหว่างทั้งสองคน
จากนั้น มัสก์ก็กล่าวหาทรัมป์ต่อว่า เป็นพวกไม่สำนึกในบุญคุณ โดยบอกว่า หากไม่มีมัสก์ช่วยหาเสียง ทรัมป์ก็แพ้เลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว มัสก์ประกาศสนับสนุนทรัมป์ และช่วยทรัมป์หาเสียงแบบทุ่มสุดตัว พร้อมสนับสนุนเงินหาเสียงให้ทรัมป์อีก 290 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ก็ได้มอบตำแหน่งสำคัญให้กับมัสก์
แต่มัสก์ก็ตัดสินใจลาออกหลังจากทำงานให้ทรัมป์ได้ 129 วัน จากการโดนกระแสต่อต้านอย่างหนัก ที่ทำให้หุ้นและยอดขายของเทสลาตกต่ำ เพื่อกลับมาทำงานให้เทสลาอย่างเต็มที่อีกครั้ง และเริ่มออกมาวิจารณ์นโยบายของทรัมป์ จนกลายเป็นจุดแตกหักความสัมพันธ์ของทั้งสองคน