สรุปข่าว
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวงจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการร์ปัจจุบันที่ราคาทองคำในตลาดโลกขึ้นมาแตะเป้าหมายที่ตลาดโลกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ มองว่าทิศทางราคาทองคำน่าจะยังเป็นขาขึ้นอยู่ ยังสามารถลุ้นขึ้นต่อไป ดังนั้น หากใครถือลงทุนอยู่แล้วก็ให้ Run Trend หรือ ถือไปจนกว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งอาจจะต้องรอสัญญาณการปรับเป้าหมายราคาใหม่อีกครั้ง อาจเห็นในเร็วๆ นี้ต้องรอติดตาม อย่างไรก็ดี ปัจจัยพื้นฐานของการลงทุนทองทำไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
โดยราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับขึ้นมาแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลักๆ มาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์หรือการเมืองระหว่างประเทศ เพราะนอกจากความขัดแย้งมีการสู้รบในตะวันออกกลางแล้ว ยังมีความขัดแย้งที่ร้อนแรงขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน รวมทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ด้วย ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์เหล่านี้ หนุนความต้องการถือหรือดีมานด์ทองคำมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐที่หลังทราบผลการเลือกตั้งอาจมีผลให้นโยบายของสหรัฐต่อการสนับสนุนอิสราเอลในตะวันออกกลางเปลี่ยนแปลงไปได้ ในระยะนี้จึงเห็นอิสราเองเร่งดำเนินการโจมตีมากขึ้น ก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ รวมทั้งตลาดยังติดตามความไมแน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจอ่อนแอลง
ดังนั้น ต้องติดตามตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ เพื่อดูสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยควบคู่ไปด้วย หากเกิดสัญญาณถดถอยหรือชะลอตัวจะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นอีก เพราะทองคำจะกลายเป็นแหล่งพักเงินของนักลงทุน แต่ในทางตรงข้ามหากการเมืองระหว่างประเทศนิ่งและข้อมูลเศราษฐกิจสหรับออกมาดีก็อาจเห็นราคาทองคำปรับฐานได้ สำหรับแนวโน้มราคาในระยะ 1-2 สัปดาห์ยังคาดว่าราคาจะอยู่ระดับ 2,600-2,700 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนราคาทองคำในประเทศแม้นักลงทุนลุ้นให้เห็น 50,000 บาทต่อบาททองคำ หลังเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงมาบ้างแล้วนั้น นายวิกิจ มองว่า ถ้าซื้อกำไรจากมุมมองค่าเงินบาทอ่อน อาจจะเริมสะสมตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้าเงินบาทกลับไปอยู่ระดับ 35-36 บาท อาจเห็นราคาทองคำใกล้แตะระดับ 50,000 บาทต่อบาททองคำได้ ซึ่งต้องติดตามทิศทางคาเงินบาท เพระาหลังบาทแข็งทรงตัวมาระยะก็เริ่มเห็นการอ่อนค่าลงมาบ้างแล้ว เพราะดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ปรับลงมาแล้ว รายได้ดุลบริการก็ทงตัว จึงมองว่าเงินบาททีเหมาะสมอาจอยู่ระดับ 34-35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และหากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือนพ.ย.นี้หากดอกเบี้ยปรับลดลงอีกก็อาจหนุนให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้อีก จึงหวะนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมลงทุนทองคำในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุนทองคำโลก มองว่าระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ ยังรับได้ แต่ต้องตั้ง Trailing Stop เอาไว้ด้วย ส่วนทองคำในประเทศมองว่าระดับ 42,000 -43,000 บาท/บาททองคำก็รับได้ สรุป ทองคำยังสามารถซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ เพียงแต่ต้องติดตามสถาการณ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้น
- เงินบาทเช้านี้ 30 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่า” ที่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์
- เกาหลีใต้หั่นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 พร้อมลดอีก
- เงินบาทเช้านี้ 29 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 28 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.69 บาทต่อดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 27 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์
- "เงินบาท" แข็งค่าสุดรอบ 7 เดือน จับตา "หนี้สหรัฐฯ" หลังรัฐบาล "ทรัมป์" ขาดความน่าเชื่อถือ
- เงินบาทเช้านี้ 26 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.57 บาท/ดอลลาร์
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand