จับตา 2 ปัจจัยชี้ชะตาทองโลก จะลดต่อหรือหยุดลงแล้ว

นายวิกิจ  ถิรวรรณรัตน์  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกช่วงนี้ที่ปรับลดลงมากพอสมควรแล้ว ได้เคยแนะนำให้ขายทำไรออกมาก่อน แต่ล่าสุดก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับลดลงอีกหรือไม่  ดังนั้น จังหวะนี้จึงอยากแนะนำให้ Wait & See รอดูความชัดเจนก่อน  ว่าการปรับฐานของราคาทองคำรอบนี้จะไปจบที่ตรงไหน 

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามดูหลังจากนี้้อยู่ที่ปัจจัยดังนี้ 1)การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(ฟด)เดือนธ.ค.นี้ ซึ่งดอกเบี้ยเฟดอาจไม่ได้ปรับลดลงเยอะเหมือนที่ทุกคนมองไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น โอกสที่จะลดดอกเบี้ยระดับ ร้อยละ 0.25  ที่เดิมมีมากกว่าร้อยละ 80 อาจลดลงมาเหลือราวร้อยละ 60 ซึ่งหากเดือนธ.ค.ปีนี้ดอกเบี้ยเฟดไม่ได้ลดลง หรือส่งสัญญาณว่าจะลดลงอีกระยะแล้วจะหยุดลง โอกาสที่ทองคำในตลาดโลกจะปรับฐานต่อมีความเป็นไปได้ 

และ 2) ถ้าดอกเบี้ยเฟดไม่ลดลงก็อาจจะเห็นภาพของดอลลาร์ที่จะแข็งค่าขึ้น และบอนด์ยิลด์สหรัฐ หรือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็จะปรับตัวขึ้น ภาพเช่นนี้ก็มีโอกาสที่จะกดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงต่อได้อีก เพราะฉะนั้นจึงยังไม่เห็นภาพว่าทองจะลงต่อไปอีกหรือจะหยุดลงแล้ว ส่งผลให้ช่วงนี้  Wait & See ไปก่อน อย่างน้อยก็จนถึงการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ จะทยอยรายงานออกมา ถ้าออกมาในทิศทางที่ดี โอกาสที่เฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยโอกาสจะสูงขึ้น 

สำหรับคาดการณ์กรอบราคาทองคำโลก คาดว่าถ้าหลุดระดับ 2,600 ดอลลาร์/ออนซ์ น่าจะรับไปอยู่ และถ้ามาแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์/ออนซ์  จะเป็นโซนให้กลับเข้ามาซื้อได้อีกครั้ง ขณะที่คำแนะนำการลงทุนในจังหวะนี้ แนะนำให้ถือเงินสดไว้ก่อนส่วนหนึ่งและอีกส่วนอาจจะพิจารณาลงทุนในหุ้นบ้างก็ได้  เพราะถือบอนด์ และถือทองคำช่วงนี้ผลตอบแทนยังไม่ได้ดีนัก แม้ว่าระยะยาวจะยังมีโอกาสไปแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปี 2568 ตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ก็ตาม