
สรุปข่าว
สำหรับการเกิดพายุหมุนเขตร้อนนั้น ยิ่งอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เกิดพายุได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันการจัดระดับความรุนแรงของพายุจะอยู่ภายใต้มาตราส่วนลมพายุเฮอริเคนที่ชื่อว่า Saffir-Simpson ซึ่งจะถูกจัดหมวดหมู่อยู่ในระดับ 1 ถึง 5 ตามความเร็วลมสูงสุดที่เกิดขึ้นโดยมาตรวัดระดับพายุเฮอริเคน แบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้ ระดับ 1 ความเร็วลม 119-153 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระดับ 2 ความเร็วลม 154-177 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระดับ 3 ความเร็วลม 178-209 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระดับ 4 ความเร็วลม 210-249 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และระดับ 5 ความเร็วลม 250 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งพายุระดับ 5 นั้น ปกติก็ถือเป็นระดับแรงที่สุดสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้มากมาย แต่นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมานั้นพบว่า มีพายุถึง 5 ลูกที่มีความเร็วสูงสุดแตะระดับ 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แก่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในปี 2013 เฮอริเคนแพทริเซียในปี 2015 ไต้ฝุ่นเมอรันตีในปี 2016 ไต้ฝุ่นโคนีในปี 2020 และไต้ฝุ่นซูรีแกในปี 2021 นักวิทยาศาสตร์จึงเสนอให้มีการเพิ่มระดับพายุความรุนแรงระดับ 6 เข้าไปเรียกว่าเมกะเฮอริเคน ซึ่งใหญ่และรุนแรงกว่าซูเปอร์เฮอริเคนซึ่งเป็นพายุระดับ 5 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังเตือนว่าหากโลกยังร้อนขึ้นต่อไปอีก ในอนาคตก็อาจจะมีพายุไต้ฝุ่นหรือเฮอริเคนระดับ 7 ก็เป็นไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะสร้างความเสียหายได้มากทีเดียว
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- “ทอร์นาโด” ถล่มชิลี เตือน พ.ค.-มิ.ย.เจออีกหลายลูก หายนะจากภาวะโลกร้อน
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
- วิกฤตอากาศดึงเศรษฐกิจทรุด UN ชี้ต้องลดการปล่อยคาร์บอน เศรษฐกิจโลกถึงจะฟื้น!
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand