จากรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) และหน่วยงานสิ่งแวดล้อมยุโรป พบว่า มากกว่า 80% ของชายหาดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนกำลังได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะ ไม่ว่าจะเป็นชายฝั่งสเปน ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ตูนิเซีย หรืออียิปต์ ชายหาดเหล่านี้บางแห่งสูญเสียผืนทรายไปมากถึง 1-2 เมตรต่อปี การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นผลจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานริมทะเล การทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำ และการสูบน้ำใต้ดิน


สรุปข่าว
จากรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) และหน่วยงานสิ่งแวดล้อมยุโรป พบว่า มากกว่า 80% ของชายหาดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนกำลังได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะ ไม่ว่าจะเป็นชายฝั่งสเปน ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ตูนิเซีย หรืออียิปต์ ชายหาดเหล่านี้บางแห่งสูญเสียผืนทรายไปมากถึง 1-2 เมตรต่อปี การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นผลจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานริมทะเล การทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำ และการสูบน้ำใต้ดิน


หนึ่งในพื้นที่ที่น่าเป็นกังวลคือ ชายฝั่งตูนิเซีย ซึ่งการกัดเซาะชายฝั่งกำลังคุกคามทั้งวิถีชีวิตชาวประมง เศรษฐกิจในท้องถิ่น และมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ โดยข้อมูลจากธนาคารโลกในปี 2021 ระบุว่า กว่า 35% ของชายหาดตูนิเซียกำลังถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างฮัมมาแมตที่ชายฝั่งหายไปมากถึง 8 เมตรต่อปี นอกจากวิถีชีวิตแล้ว มรดกทางประวัติศาสตร์ของตูนิเซียก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะซากเมืองโรมันโบราณซึ่งเคยรุ่งเรือง ปัจจุบันบางส่วนของเมืองจมอยู่ใต้ทะเล และซากหินโบราณกำลังถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำทะเล กระทรวงสิ่งแวดล้อมของตูนิเซียเตือนว่าเกาะกว่า 60 แห่งในประเทศกำลังเผชิญความเสี่ยงสูงต่อการจมน้ำจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน ดินชายฝั่งก็เริ่มได้รับความเสียหายจากการกัดเซาะและความเค็มของน้ำทะเลที่รุกล้ำเข้ามา ทำให้พื้นที่เกษตรหลายแห่งเสื่อมสภาพ
แม้จะมีความพยายามในการรับมือ เช่น การสร้างเขื่อนป้องกัน หรือการฟื้นฟูชายฝั่งในระดับชุมชน แต่ขอบเขตของปัญหานั้นใหญ่เกินกว่าที่ชาวบ้านจะรับมือไหว การกัดเซาะชายฝั่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ โดยธนาคารโลกประเมินว่าตูนิเซียสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจจากปัญหานี้ประมาณ 2.8% ของ GDP ต่อปี
ปัญหาระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นและการกัดเซาะชายฝั่งจึงไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่คือภัยเงียบที่คุกคามรากฐานของประเทศอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง
- เปิดรายงานโลกร้อนปี 2025 “โดมินิกา-จีน” เสี่ยงภัยพิบัติสูงสุด ส่วน “ไทย” ติดอันดับที่ 30
- นักล่าปรับตัวสู้โลกร้อน เปลี่ยนจากกินเนื้อ เป็นแทะกระดูก
- ชาวอินเดีย 96% ยืนยันโลกร้อนจริง กว่า 30% คิดย้ายถิ่นหนีภัยพิบัติ
- โลกจมขยะพลาสติก ยุโรปเอาจริง แต่ไทยยังเทรวมเป็นภูเขาขยะ
- โลกร้อนทำน้ำแข็งละลาย เสี่ยงปลุกภูเขาไฟระเบิดถี่ขึ้น!
- วิกฤตกล้วยโลก เสี่ยงกลายเป็นผลไม้หายาก
- อุตุฯ เตือนปลายส.ค.-ก.ย. ฝนชุกที่สุดในรอบปี
