
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 พบว่าแมวน้ำแคสเปียนซึ่งถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จำนวนกว่า 2,200 ตัว เกยตื้นตามชายฝั่งคาซัคสถาน ที่ผ่านมาประชากรแมวน้ำแคสเปียนลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ จากมนุษย์นั้นส่งผลกระทบกับระบบนิเวศแทบจะทั้งหมด
ทางการของคาซัคสถาน ระบุว่า การเกยตื้นหมู่ของแมวน้ำแคสเปียนและลดจำนวนลงมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมมลพิษ โรคติดต่อต่างๆ การติดเชื้อ การขาดอากาศหายใจจากการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติในทะเล ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมวน้ำอ่อนแอลง จนไม่สามารถต้านทานโรคได้ดีเหมือนเดิม
สรุปข่าว
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 พบว่าแมวน้ำแคสเปียนซึ่งถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จำนวนกว่า 2,200 ตัว เกยตื้นตามชายฝั่งคาซัคสถาน ที่ผ่านมาประชากรแมวน้ำแคสเปียนลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ จากมนุษย์นั้นส่งผลกระทบกับระบบนิเวศแทบจะทั้งหมด
ทางการของคาซัคสถาน ระบุว่า การเกยตื้นหมู่ของแมวน้ำแคสเปียนและลดจำนวนลงมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมมลพิษ โรคติดต่อต่างๆ การติดเชื้อ การขาดอากาศหายใจจากการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติในทะเล ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมวน้ำอ่อนแอลง จนไม่สามารถต้านทานโรคได้ดีเหมือนเดิม
นอกจากปัจจัยด้านสุขภาพแล้ว การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ระดับน้ำทะเลแคสเปียนลดลง ฤดูหนาวสั้นลง อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นกระทบกับวงจรชีวิตของแมวน้ำอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันกิจกรรมของมนุษย์ยังเป็นตัวเร่งปัญหาทั้งหมดให้รุนแรงขึ้น ทั้งการเดินเรือในฤดูหนาวที่รบกวนการสผมพันธุ์ของแมวน้ำ การประมงที่เกินพิกัด และการติดอวนของชาวประมง
ขอมูลจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN เปิดเผยว่า จำนวนประชากรแมวน้ำแคสเปียนในคาซัคสถานเหลือเพียง 270,000 ตัว แม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับในอดีตจะพบว่าจำนวนแมวน้ำแคสเปียนลดลงไปกว่าร้อยละ 70 ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาเฉพาะของท้องถิ่นเท่านั้นแต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือในระดับภูมิภาคที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องระบบนิเวศและสัตว์ทะเลหายากก่อนจะสายเกินไป