
การอพยพครั้งใหญ่ของวิลเดอบีสต์ในทุ่งสะวันนาแอฟริกาถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาช้านาน นักท่องเที่ยวและนักวิทยาศาสตร์ต่างคุ้นเคยกับตัวเลข 1.3 ล้านตัว ซึ่งเป็นประมาณการจากการสำรวจทางอากาศมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดได้พลิกความเชื่อนี้ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และภาพถ่ายดาวเทียมมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS Nexus เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 จัดทำโดยทีมจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ร่วมกับพรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยฮ่องกง และมหาวิทยาลัยทเวนเต รวมถึงสถาบันอื่น ๆ พวกเขาใช้แบบจำลอง AI สองระบบ ได้แก่ U-Net และ YOLOv8 มาวิเคราะห์ภาพดาวเทียมความละเอียดสูงที่ถ่ายในปี 2022 และ 2023 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตรในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Tanzania) และเขตอนุรักษ์มาไซมารา (Kenya)
สรุปข่าว
การอพยพครั้งใหญ่ของวิลเดอบีสต์ในทุ่งสะวันนาแอฟริกาถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาช้านาน นักท่องเที่ยวและนักวิทยาศาสตร์ต่างคุ้นเคยกับตัวเลข 1.3 ล้านตัว ซึ่งเป็นประมาณการจากการสำรวจทางอากาศมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดได้พลิกความเชื่อนี้ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และภาพถ่ายดาวเทียมมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS Nexus เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 จัดทำโดยทีมจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ร่วมกับพรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยฮ่องกง และมหาวิทยาลัยทเวนเต รวมถึงสถาบันอื่น ๆ พวกเขาใช้แบบจำลอง AI สองระบบ ได้แก่ U-Net และ YOLOv8 มาวิเคราะห์ภาพดาวเทียมความละเอียดสูงที่ถ่ายในปี 2022 และ 2023 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตรในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Tanzania) และเขตอนุรักษ์มาไซมารา (Kenya)
ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากแบบจำลองระบุจำนวนวิลเดอบีสต์เพียง ประมาณ 324,000–338,000 ตัวในปี 2022 และ 503,000–533,000 ตัวในปี 2023 ซึ่งใกล้เคียงเพียง 600,000 ตัว เท่านั้น ต่ำกว่าครึ่งของตัวเลขดั้งเดิมจากการสำรวจทางอากาศถึงสองเท่า โดยดร.ไอลา ดูพอร์จ หัวหน้าทีมวิจัย อธิบายว่า การสำรวจทางอากาศมีข้อจำกัดเพราะใช้วิธีบินตามเส้นทางแคบ ๆ แล้วนำผลไปคูณพื้นที่กว้าง ๆ ทำให้เสี่ยงต่อความคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเมื่อฝูงสัตว์กระจายไม่สม่ำเสมอ ตรงกันข้าม ภาพถ่ายดาวเทียมช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่มหาศาลได้โดยไม่รบกวนสัตว์ป่า แม้ปัจจุบันยังมีข้อท้าทาย เช่น ความละเอียด 30–60 เซนติเมตรต่อพิกเซลที่อาจสับสนระหว่างวิลเดอบีสต์กับม้าลายหรืออีแลนด์
คำถามสำคัญคือ ทำไมตัวเลขถึงน้อยกว่าที่เคยเชื่อกัน? งานวิจัยไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการตายหมู่หรือประชากรพังทลายลง เพราะไม่พบซากสัตว์กระจายทั่วไป แต่อาจสะท้อนทั้งความแตกต่างของวิธีนับ และการปรับเปลี่ยนเชิงธรรมชาติ เช่น เส้นทางอพยพที่เปลี่ยนจากผลกระทบของการใช้ที่ดินทำเกษตร การกีดขวางด้วยรั้ว และสภาพภูมิอากาศที่ผันผวน
ความแม่นยำในการนับมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพื่อการอนุรักษ์ฝูงวิลเดอบีสต์เอง แต่ยังเพื่อจัดการสมดุลของผู้ล่าอย่างสิงโตและไฮยีน่า รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจเศรษฐกิจของเคนยาและแทนซาเนีย เทคนิคใหม่นี้ยังเปิดโอกาสต่อยอดไปยังสัตว์อื่น เช่น ม้าลายและแรด พร้อมทั้งเผยแพร่เป็นโอเพ่นซอร์สเพื่อการอนุรักษ์ทั่วโลก
งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าความเข้าใจเรื่อง “การอพยพครั้งใหญ่” ของวิลเดอบีสต์จำเป็นต้องถูกทบทวนอีกครั้ง จากที่เคยเชื่อว่ามีถึง 1.3 ล้านตัว อาจมีจริงเพียง ไม่ถึง 600,000 ตัว เท่านั้น การประยุกต์ใช้ AI กับภาพดาวเทียมจึงไม่เพียงช่วยให้การสำรวจมีความแม่นยำและปลอดภัยขึ้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะขับเคลื่อนการอนุรักษ์สัตว์ป่าในยุคที่ธรรมชาติถูกกดดันจากมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง
- 8 ประเทศเอเชียเสี่ยงน้ำท่วมสูง กรุงเทพฯ ติดอันดับเสี่ยงจมน้ำ
- ชาวออสเตรเลียนับล้านเสี่ยง เจอน้ำทะเลหนุนกลืนเมืองชายฝั่ง หากโลกร้อนเกิน 3 องศาฯ
- “สเปน” ปฏิวัติการศึกษา บรรจุหลักสูตรสอนรับมือภัยพิบัติ เตรียมคนรุ่นใหม่สู้โลกร้อน!
- ภัยแล้ง–น้ำท่วมถล่มเอเชีย วิกฤตน้ำส่อพังเศรษฐกิจโลก หากไร้การแก้ไข
- โลกร้อนขึ้น 7 °C ในปี 2100 โลกเสี่ยงอพยพครั้งใหญ่
