หลายครั้งที่เขาแสดงความผิดพลาดในเกมออกมา จนถึงขั้นที่ทำให้ทีมเสียประตู จากคนที่วิ่งขึ้นสุดลงสุดด้วยพละกำลังที่ไม่มีหมด การทำสิ่งนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลาหลายปี ย่อมมีวันที่ทุกอย่างถดถอยลงตามกาลเวลา

บางเกมเล่นดี บางเกมต่ำกว่ามาตรฐาน ถือเป็นเรื่องปกติของนักกีฬา แม้ภาพรวมจะยังเป็นกำลังสำคัญ แต่ถ้ามองถึงอนาคตอันใกล้ สโมสรจำเป็นต้องหานักเตะคนใหม่เข้ามาทดแทน 

กว่า 8 ซีซั่น ในสีเสื้อลิเวอร์พูล แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลงเล่นไป 308 นัด ในพรีเมียร์ลีก ยิงไป 11 ประตู กับอีก 60 แอสซิสต์ สร้างความสำเร็จให้กับทีมมามากมาย แน่นอนว่าชื่อของเขาถูกแฟน ๆ จดจำและยกขึ้นหิ้งในฐานะตำนานของสโมสร

ในวัย 31 ปี ของ โรเบิร์ตสัน เขายังคงมีดีพอลงเล่นในระดับสูง และเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะใช้ประโยชน์จากเขาต่อไปในแบบที่แตกต่างจากเดิม ในฤดูกาลใหม่จำนวนลงเล่นอาจไม่ได้มากเท่าที่ผ่านมา แต่ อาร์เน สล็อต กุนซือใหญ่ของทีมจะเลือกใช้งานเขาอย่างมีคุณภาพ

ไม่เพียงแค่ในสนาม แต่นอกสนามเขาจะเป็นตัวแปรสำคัญให้กับแบ็กซ้ายคนใหม่ที่จะเข้ามา เหมือนคู่มือให้กับเด็กรุ่นหลังได้เรียนรู้ เพื่อสืบทอดตำแหน่งของเขาต่อไปได้อย่างไร้รอยต่อในอนาคต

มิลอส เคอร์เคซ คือชื่อที่ขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในการคว้าตัวของสโมสรลิเวอร์พูล และหากไม่มีอะไรผิดพลาด สาวก "หงส์แดง" ก็คงจะได้รับฟังข่าวดีจากสโมสรในเร็ว ๆ นี้

เราขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของแข้งรายนี้ ว่าเขาจะเกิดและเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะกลายเป็นว่าที่แบ็กซ้ายคนใหม่ของสโมสรลิเวอร์พูล 

ประวัติ มิลอส เคอร์เคซ

มิลอส เคอร์เคซ เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 ที่เมือง Vrbas ประเทศเซอร์เบีย โดยที่เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีเชื้อสายฮังการี และเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรท้องถิ่นในเซอร์เบียอย่าง OFK Vrbas

เข้าสู่ปี ค.ศ. 2014 เคอร์เคซ ย้ายไปอยู่กับอคาเดมีของสโมสรราปิด เวียนนา ทีมยักษ์ใหญ่ในลีกของประเทศออสเตรีย เขาใช้เวลาฝึกฝนทักษะฟุตบอลอยู่ราว ๆ 5 ปี ก่อนจะได้โอกาสโบยบินข้ามประเทศอีกครั้ง

คราวนี้เขาโยกมาอยู่กับ Győr (เยอร์) สโมสรเก่าแก่ในลีกฮังการี ด้วยวัยเพียง 15 ปี และที่แห่งนี้เองกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตนักฟุตบอลอาชีพของเขา เพราะถือเป็นการเปิดโลกกว้างอย่างแท้จริง

มิลอส เคอร์เคซ เลือกทีมชาติฮังการี

การได้ย้ายมาอยู่ที่ฮังการี เขาได้รับการถ่ายทอดความรู้ทั้งจากโค้ชและความช่วยเหลือต่าง ๆ จากเพื่อนร่วมทีม ที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวฮังการี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องซ้อมกันแบบปิด กินนอนกับทีม ตัดขาดโลกภายนอก จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จนสามารถมุ่งมั่นและพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างก้าวกระโดด และในที่สุดเขาก็ได้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสร ในปี ค.ศ. 2020

การตัดสินใจเซ็นสัญญาครั้งนั้น เจ้าตัวให้เหตุผลง่าย ๆ ว่าเขาอยากที่จะลงเล่นในนามทีมชาติฮังการี เพื่อตอบแทนกับสิ่งที่เขาได้รับการสนับสนุนจากโค้ชและความผูกพันกับเพื่อนร่วมทีมชาวฮังการีด้วยดีมาโดยตลอด คือสิ่งสำคัญที่ทำให้มีวันนี้

มิลอส เคอร์เคซ กับ เอซี มิลาน

เพียงแค่ฤดูกาลแรก ฟอร์มของ เคอร์เคซ ก็ทำได้อย่างโดดเด่น จนถูกผลักดันให้ติดทีมชุดเยาวชนU21 ของฮังการี ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และในช่วงเวลานี้เองที่ฝีเท้าของเขาก็ไปเตะตาทีมแมวมองจากสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลาน ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ถึงขนาดที่ เปาโล มัลดินี่ ตำนานของสโมสรต้องเป็นคนที่ต่อสายพูดคุยกับเขาด้วยตัวเอง และเกิดเป็นความประทับใจจนยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอ

สุดท้าย มิลอส เคอร์เคซ ตอบรับคำขอจากตำนาน และเลือกที่จะออกเดินทางครั้งใหม่ ในปี ค.ศ. 2021 แต่บทบาทของเขาคือได้แค่ฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับโอกาสมากพอ สุดท้ายไม่นานเขาจึงเลือกที่จะอำลาสโมสร เพื่อไปหาความท้าทายครั้งใหม่

มิลอส เคอร์เคซ กับโอกาสครั้งใหม่ที่ อาแซด อัลค์มาร์

สถานีต่อไปของเขาเลือกที่จะไปอยู่กับ อาแซด อัลค์มาร์ ในลีกเนเธอร์แลนด์ โดยเซ็นสัญญากันในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2022 และแน่นอนว่าด้วยฝีเท้าของเขาสามารถยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงของทีมได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว 

การตัดสินใจเดินออกจากทีมยักษ์ใหญ่ มาเริ่มต้นกับสโมสรระดับกลาง ๆ ทำให้ฝีเท้าของเขาเริ่มเจิดจรัส ไม่นานชื่อของเขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติฮังการี ชุดใหญ่ และลงเล่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2022 ในเกมที่เอาชนะ เยอรมัน 1-0 และชื่อของเขาก็เริ่มตกเป็นที่หมายตาของบรรดาทีมในลีกท็อปของยุโรปมากขึ้น

มิลอส เคอร์เคซ ย้ายร่วมทีมบอร์นมัธ

มีรายงานข่าวว่า เบนฟิก้า ทีมในลีกโปรตุเกส ให้ความสนใจจะดึงตัวไปร่วมทีม แต่ไม่สามารถสู้ค่าตัวไหว สุดท้ายกลายเป็น บอร์นมัธ สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่คุมทัพโดย อิราโอล่า ทุ่มเงิน 15.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 697.5 ล้านบาท) กระชากตัวมาร่วมทีม พร้อมกับเซ็นสัญญายาวถึงปี 2028

ไม่นาน เคอร์เคซ ก็ใช้ความสามารถของเขาพิสูจน์ตัวเองในระหว่างปรีซีซั่นและได้โอกาสประเดิมสนามในศึกพรีเมียร์ลีก ฐานะตัวจริงครั้งแรก วันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2023 นัดที่เสมอกับ เวสต์แฮม 1–1 จากนั้นเป็นต้นมาชื่อของ เคอร์เคซ ก็แทบจะไม่หลุดออกจากทีมอีกเลย

ความเร็ว ความดุดัน พละกำลัง ว่ากันว่านี่คือแบ็กซ้ายอันดับต้น ๆ ของโลกลูกหนังในชั่วโมงนี้ แถมอายุเพิ่งจะแค่ 21 ปี ไม่แปลกใจที่ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล จะให้ความสนใจคว้าตัวไปอุดรอยรั่ว และซื้ออนาคตกับแข้งรายนี้เอาไว้

หากทุกอย่างเป็นไปตามหน้าสื่อ มิลอส เคอร์เคซ จะได้ออกเดินทางอีกครั้งในแบบฉบับที่ใหญ่กว่าเดิม และจากผลงาน 2 ซีซั่นที่ผ่านมาในเวทีลีกสูงสุดของอังกฤษ ทำให้เขาแทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย เพียงแค่ทำตัวเองให้เข้ากับระบบของต้นสังกัดใหม่

เชื่อว่า มิลอส เคอร์เคซ จะได้โอกาสเรียนรู้เรื่องราวบทใหม่จาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และเขาจะกลายเป็นแบ็กซ้ายที่ก้าวขึ้นมาเขย่าวงการฟุตบอลให้สั่นสะเทือน

คิดง่าย ๆ นี่ขนาดแค่ ลิเวอร์พูล ใช้งาน โรเบิร์ตสัน ในสภาพที่ไม่เต็มถังเหมือนอดีต ยังสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้ การมาเติมเต็มของ เคอร์เคซ ยิ่งทำให้ทัพ "หงส์แดง" แข็งแกร่งกว่าเดิม และยืนระยะเพื่อต่อยอดความสำเร็จไปได้นานอีกหลายปี

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ประวัติ เลียม ดีแลป ว่าที่กองหน้าคนใหม่ของเชลซี

ประวัติ รายาน แชร์กี้ เด็กปั้น ลียง ที่กำลังเนื้อหอม

ย้อนประวัติเส้นทางลูกหนัง มาเธอุส คุนญ่า ดาวยิงเนื้อหอมของ วูล์ฟแฮมป์ตัน