การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024/25 สัปดาห์ที่ 33 "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ เวาต์ ฟาส กลับมายืนในแผงแบ็กโฟร์ รวมถึง บ็อบบี้ เดคอร์โดบา-รีด มีชื่อเป็น 3 ประสานในเกมรุก
ทางด้าน อาร์เน่ สล็อท กุนซือของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ส่ง คอสตาส ซิมิกาส และ คอเนอร์ แบลดลีย์ ลงสนามเป็นตัวจริง และใช้ หลุยส์ ดิอาซ เป็นหน้าเป้า โดยมี โคดี้ กัคโป เจาะทางซ้าย เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมที่เพิ่งต่อสัญญาใหม่ยืนประจำการในแนวรับเช่นเดิม
เริ่มเกมมาเพียง 10 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสลุ้นทำประตูก่อน จากจังหวะที่ วินฟรีด เอ็นดีดี้ มีโอกาสยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งชนเสาไปอย่างน่าเสียดาย
สรุปข่าว
โดยในช่วงครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่าถึง 60% กับโอกาสยิง 14 ครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ ทำให้เสมอกันไปก่อน 0-0
ต่อมาในครึ่งหลัง นาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ พาบอลลุยเข้ามาก่อนบอลทะลักมาเข้าทาง คอสตาส ซิมิกาส ซัดไปติดเซฟ มัดส์ เฮอร์มันเซ่น
จนมาถึงนาทีที่ 76 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ทัพหงส์แดง ได้ลูกเตะมุมและ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ขึ้นโขกแต่ล้นไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โหม่งอีกทีไปชนเสา จากนั้นแนวรับ เลสเตอร์ ซิตี้ สกัดบอลออกไป แต่ไปเข้าทางตัวสำรองอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หวดด้วยซ้ายเปรี้ยงเดียวเข้าไปอย่างงดงาม
จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ร่วงตกชั้นอย่างเป็นทางการ ส่วน ลิเวอร์พูล คว้าสามแต้มสำคัญนำจ่าฝูงหนี อาร์เซนอล ไปเป็น 13 คะแนนเหมือนเดิม และหากเกมหน้าที่แอนฟิลด์เอาชนะ สเปอร์ส ได้หรือ อาร์เซนอล แพ้ คริสตัล พาเลซ ก่อนในคืนวันพุธนี้ ลูกทีมของ อาร์เน่ จะการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ทันที
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ : มัดส์ เฮอร์มันเซ่น, ริคาร์โด้ เปเรยร่า (เจมส์ จัสติน น.83), เวาท์ ฟาส, คอเนอร์ โคดี้, ลุค โธมัส, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (โอลิเวอร์ สคิปป์ น.83), บูบาการี่ ซูมาเร่, บ็อบบี้ เด คอร์โดบา-รีด (ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ น.61), บิลัล เอล คันนูส, สเตฟี่ มาวิดิดี้ (เฌเรมี่ ม็องก้า น.85), เจมี่ วาร์ดี้ (แพทสัน ดาก้า น.62)
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์, คอเนอร์ แบรดลี่ย์ (เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.71), อิบราฮิม่า โคนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิกาส, ไรอัน กราเวนเบิร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล (ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต น.71), โกดี้ กัคโป (ดิโอโก้ โชต้า น.60), หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.90+4)
