

สรุปข่าว
Nappuccino (แนปปูชิโน่) เกิดจากการเอาคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาผสมกัน ระหว่างคำว่า Nap ที่แปลว่า การงีบหลับช่วงสั้นๆ กับ Capuccino ชื่อเมนูกาแฟถ้วยโปรดของใครหลายคน กลายเป็นคำศัพท์ใหม่ หมายถึง การดื่มกาแฟแล้วไปนอนกลางวันทันที ทำให้ร่างกายได้ใช้ประโยชน์จากคาแฟอีนในกาแฟ และพลังจากการนอนพักผ่อน เหมือนการชาร์จพลังงานให้กับสมองแบบคูณสอง ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สมองตื่นตัวมากขึ้นหลังจากที่ตื่นนอนแล้ว ซึ่งอีกชื่อหนึ่งของ Nappuccino ก็คือ Coffee nap นั่นเอง
การนอนกลางวันแบบ Nappuccino
1.ดื่มกาแฟ 1 แก้วโดยไม่ต้องใช้เวลานนานมาก เนื่องจากหากระยะหลังดื่มกาแฟเข้าไปแล้ว กับการนอนห่างกันมากเกินไป คาแฟอีนก็อาจจะออกฤทธิ์จนทำให้คุณไม่สามารถนอนหลับได้อีก
2.ดื่มกาแฟเสร็จแล้วหาที่งีบ ควรเป็นที่เงียบๆ ไร้ซึ่งเสียงรบกวนจากผู้คน และควรปิดเสียงเตือนจากมืถือด้วย จะช่วยให้หลับลึกมากขึ้น
3.ระยะเวลาที่ดี ของการนอนกลางวันคือ 20 นาที และไม่ควรเกินจากนี้
4.ตื่นให้ตรงเวลา ไม่กดเลื่อนนาฬิกาปลุก การนอนกลางวัน นานกว่า 30 นาทีจะทำให้รู้สึกมึนหัว สมองตื้อยิ่งกว่าเดิม
ประโยชน์ของการนอนกลางวัน แบบ Nappuccino คือ หลังจากที่ตื่นนอนแล้ว การสมองพักในช่วงเวลาสั้นๆ บวกกับคาแฟอีนที่กำลังเริ่มออกฤทธิ์ จะช่วยทำให้สมองตื่นตัวมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานช่วงบ่าย
.
เคยมีงานวิจัยที่บอกเอาไว้ว่า สมองของคนเราสามารถผลิตงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด วันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาเช้า จากนั้นสมองจะเริ่มล้าและทำงานได้ช้าลง ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป
ดังนั้น การนอนกลางวัน ซึ่งเป็นตัวช่วยของสมองให้ได้พักในช่วงสั้นๆ เพื่อตื่นขึ้นมาทำงานรอบใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการนอนกลางวัน บอกไว้อีกว่า ถ้าไม่รู้จะงีบหลับช่วงไหนดี เวลาเหมาะสม อาจจะเป็นหลังจากตื่นนอนแล้วประมาณ 7 ชั่วโมง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าแต่ละคนอาจมีเวลาที่สมองใช้งานจนเริ่มหมดแรงได้ต่างกัน รวมถึงหน้าที่และภารกิจที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะทำให้เวลาที่เหมาะกับการนอนกลางวันของแต่ละคนต่างออกไป แต่หากหาเวลาที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว ลองทำจนเป็นกิจวัตร นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
ที่มา: Danpink, RestWorks
Facebook: https://web.facebook.com/TNNHealth/posts/314621570794582
Photo credit: Pixabay
.
ติดตาม TNN Health ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://www.tnnthailand.com/
Youtube : https://bit.ly/TNNHealthYoutube
TikTok : https://bit.ly/TNNHealthTikTok
Line @TNNONLINE : https://lin.ee/4fP2tltIo
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://www.facebook.com/TNN16LIVE
ที่มาข้อมูล : -