
การจากไปของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือค่อยๆจากลา
มักทิ้ง "พื้นที่ว่าง” ไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งบนโต๊ะอาหาร ในห้องนอน หรือรอยยิ้มเล็กๆที่เคยได้ยินทุกเช้า..ความโศกเศร้าเช่นนี้ไม่ใช่แค่ความเสียใจธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ทางจิตใจที่เรียกว่า ภาวะโศกเศร้าจากการสูญเสีย (Grief)
ความโศกเศร้าจากการสูญเสียคืออะไร?
คือปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อเราสูญเสียคนที่มีความหมาย
โดยเฉพาะในครอบครัว ความสูญเสียอาจกระทบได้ลึกกว่าที่เราคิด มันอาจไม่ใช่แค่การ “ไม่มีเขา” แต่คือการที่ “ชีวิตที่เคยมีเขามันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
งานวิจัยพบว่า คนที่สูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัว มีโอกาสสูงขึ้นถึง 2 เท่า ที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าใน 6 เดือนแรกหลังการสูญเสีย
สรุปข่าว
การจากไปของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือค่อยๆจากลา
มักทิ้ง "พื้นที่ว่าง” ไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งบนโต๊ะอาหาร ในห้องนอน หรือรอยยิ้มเล็กๆที่เคยได้ยินทุกเช้า..ความโศกเศร้าเช่นนี้ไม่ใช่แค่ความเสียใจธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ทางจิตใจที่เรียกว่า ภาวะโศกเศร้าจากการสูญเสีย (Grief)
ความโศกเศร้าจากการสูญเสียคืออะไร?
คือปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อเราสูญเสียคนที่มีความหมาย
โดยเฉพาะในครอบครัว ความสูญเสียอาจกระทบได้ลึกกว่าที่เราคิด มันอาจไม่ใช่แค่การ “ไม่มีเขา” แต่คือการที่ “ชีวิตที่เคยมีเขามันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
งานวิจัยพบว่า คนที่สูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัว มีโอกาสสูงขึ้นถึง 2 เท่า ที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าใน 6 เดือนแรกหลังการสูญเสีย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า “เรากำลังเศร้าอย่างปกติ” หรือ “กำลังป่วย”?
ภาวะโศกเศร้าจากการสูญเสียทั่วไป(Normal Grief)
- เศร้า ร้องไห้ คิดถึงบ่อย ๆ
- มีอารมณ์สลับขึ้นลง แต่ยังพอทำกิจวัตรประจำวันได้
- รู้สึกถึง “การขาดหาย” แต่ไม่รู้สึก “ไร้ความหมาย”
ภาวะโศกเศร้าที่ผิดปกติ (Complicated Grief / Prolonged Grief Disorder)
- เศร้าลึกจนผ่านไปหลายเดือนแล้วยังไม่ดีขึ้นเลย อาการมักคงอยู่มากกว่า 6–12 เดือน **
- รู้สึกว่าชีวิต “ไม่มีความหมายอีกต่อไป”
- แยกตัวจากสังคม ไม่มีแรงทำสิ่งที่เคยชอบ
- มีความคิดอยากไปอยู่กับคนที่จากไป
วิธีดูแลใจในช่วงโศกเศร้า
1. อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเศร้า ความรู้สึกเสียใจหรือโศกเศร้าไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่คือสัญญาณว่าเรามีความรู้สึก
2. เขียนถึง แม้เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว บางข้อความไม่ได้พูดเพื่อให้เขาได้ยิน แต่พูดเพื่อให้เรา “ได้ปลดปล่อย”
3. อย่าตัดขาดจากผู้คน แม้จะรู้สึกอยากอยู่คนเดียว แต่การมีคนอยู่ใกล้ๆบ้างช่วยลดการจมอยู่กับความคิด
4. หากผ่านไปนานแล้วยังร้องไห้ทุกคืน หรือทำงานไม่ได้เลย ควรขอความช่วยเหลือ