นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้เผยแพร่บทความบนเพจเฟซบุ๊ก คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ระบุว่า
เคยไหมครับ พออยู่เงียบ ๆ คนเดียวแล้วจู่ ๆ ใจก็ “ดิ่ง”รู้สึกเศร้า เหงา หรือเหมือนตัวเองไม่มีค่า งานวิจัยพบว่ามากกว่า 40% ของคนวัยทำงานและวัยรุ่นมีประสบการณ์ “mood drop” หรืออารมณ์ดิ่งเมื่ออยู่ลำพังโดยเฉพาะในช่วงค่ำหรือก่อนนอน
ข่าวดีคือความรู้สึกแบบนี้แก้ไขได้ หากเรามีเครื่องมือที่ถูกต้อง วันนี้หมออยากชวนลอง 5 วิธีที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยดึงตัวเองขึ้นมาได้ ดังนี้
1. รับรู้ความรู้สึก แทนที่จะผลักไส
หลายคนพยายามบอกตัวเองว่า “อย่าคิดมาก” แต่จริงๆ แล้วการยอมรับว่า ตอนนี้เรารู้สึกเศร้านะ เหงานะ เป็นขั้นแรกของการเยียวยา
เทคนิคง่ายๆ: เขียนความรู้สึกลงกระดาษ 3 บรรทัด มันช่วยให้สมองจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
สรุปข่าว
นพ.เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ได้เผยแพร่บทความบนเพจเฟซบุ๊ก คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ระบุว่า
เคยไหมครับ พออยู่เงียบ ๆ คนเดียวแล้วจู่ ๆ ใจก็ “ดิ่ง”รู้สึกเศร้า เหงา หรือเหมือนตัวเองไม่มีค่า งานวิจัยพบว่ามากกว่า 40% ของคนวัยทำงานและวัยรุ่นมีประสบการณ์ “mood drop” หรืออารมณ์ดิ่งเมื่ออยู่ลำพังโดยเฉพาะในช่วงค่ำหรือก่อนนอน
ข่าวดีคือความรู้สึกแบบนี้แก้ไขได้ หากเรามีเครื่องมือที่ถูกต้อง วันนี้หมออยากชวนลอง 5 วิธีที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยดึงตัวเองขึ้นมาได้ ดังนี้
1. รับรู้ความรู้สึก แทนที่จะผลักไส
หลายคนพยายามบอกตัวเองว่า “อย่าคิดมาก” แต่จริงๆ แล้วการยอมรับว่า ตอนนี้เรารู้สึกเศร้านะ เหงานะ เป็นขั้นแรกของการเยียวยา
เทคนิคง่ายๆ: เขียนความรู้สึกลงกระดาษ 3 บรรทัด มันช่วยให้สมองจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
2. เชื่อมต่อกับโลกภายนอก
สมองเราถูกสร้างมาเพื่อการมี “connection” งานวิจัยชี้ว่าการได้คุยกับเพื่อนสนิทเพียง 10 นาที ช่วยลดความเครียดได้พอๆกับการทำสมาธิสั้นๆ ลองส่งข้อความหาคนที่คุณไว้ใจหรือแม้แต่พูดคุยกับสัตว์เลี้ยง…แค่ไม่เก็บทุกอย่างไว้คนเดียวก็เปลี่ยนความรู้สึกได้มากแล้ว
3. ใช้พลังของร่างกาย
ร่างกายกับจิตใจเชื่อมโยงกันแนบแน่น
การออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน 15 นาที หรือยืดเหยียด 5 นาที จะช่วยกระตุ้นสารเอนดอร์ฟิน และโดปามีนที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ทันที แม้จะเล็กน้อย แต่มันเหมือนเปิดสวิตช์รีเซ็ตให้สมองกลับมาโฟกัสกับปัจจุบัน
4. ใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ถ้าอยู่คนเดียวแล้วอารมณ์ดิ่ง การเปิดโซเชียลดูชีวิตคนอื่นอาจยิ่งทำให้เรารู้สึกด้อยค่าแต่ถ้าใช้ให้ถูก เช่น ฟังพอดแคสต์ด้านจิตวิทยา ดูหนังสั้นที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือเปิดเพลงที่ทำให้สงบ งานวิจัยพบว่ามันช่วยปรับคลื่นสมองให้ผ่อนคลายได้จริง
5. สร้าง “พิธีกรรมเล็กๆ” ของตัวเอง
เช่น การจุดเทียนหอมก่อนนอน เขียนขอบคุณสิ่งดีๆ 3 อย่างในแต่ละวัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่าง “ได้กินกาแฟที่ชอบ” หรือ “มีคนยิ้มให้ตอนเช้า” ก็ช่วยให้สมองค่อยๆ สร้างกรอบคิดบวกขึ้นมา
บทสรุป
การที่อารมณ์ดิ่งเวลาอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ มันเป็นสัญญาณว่าใจของคุณกำลังต้องการพื้นที่ปลอดภัยและความใส่ใจจากตัวคุณเอง เริ่มต้นด้วยวิธีเล็กๆ ทั้ง 5 ข้อนี้อาจไม่ทำให้ทุกอย่างหายทันที แต่จะค่อยๆ เติมแรงใจให้คุณก้าวต่อไปได้
- กรมสุขภาพจิต เผยทุก 1 ชั่วโมง มีคนพยายามปลิดชีพตัวเอง ถึง 4 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 – 19 ปี
- ซึมเศร้าเหม่อลอย ไม่ใช่ไม่สนใจ แต่เครือข่ายของสมองทำงานน้อยลง
- "รู้เท่าทันจิตใจ" กับความเครียดจาก"การเสพข่าวมากเกินไป"
- "ภาวะซึมเศร้าในช่วงเย็น" (Evening Depression) อารมณ์เศร้าที่มาพร้อมกับฟ้ามืด
- งานวิจัยชี้ ความเหงาเชื่อมโยงป่วยทางกาย โรคหัวใจ ความดันโลหิต ภูมิตก
ที่มารูปภาพ : Envato
