
จากการที่ประเทศไทยได้มีโอกาสส่งนักวิจัยไทยไปที่ทวีปแอนตาร์กติกกับประเทศจีน ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สิ้นเดือนมกราคมนี้ ทางโครงการฯ เตรียมส่งนักวิจัยมุ่งหน้าสู่แอนตาร์กติก ขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก รวมทั้งศึกษาผลกระทบของมลพิษอื่นๆ เช่น ขยะทะเล และไมโครพลาสติกที่มีต่อระบบนิเวศที่แอนตาร์กติก อีกด้วย
ในปีนี้ ทางโครงการฯ จะส่งนักวิจัย 3 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยบูรพาและช่างภาพ 1 คน เพื่อไปร่วมสำรวจคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีน คณะที่ 41 (CHINARE 41) ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (PRIC) โดยทีมวิจัยจะศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติกและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเล ณ บริเวณสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) และพื้นที่ใกล้เคียง ทวีปแอนตาร์กติก เป็นระยะเวลา 16 วัน (ระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568)
นอกจากนี้ การไปครั้งนี้จะมีการเก็บภาพและวิดิโอ เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือและสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยขั้วโลกของไทย เนื่องในโอกาสปี 2568 นี้ เป็นปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมทั้งเป็นการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย
สรุปข่าว
จากการที่ประเทศไทยได้มีโอกาสส่งนักวิจัยไทยไปที่ทวีปแอนตาร์กติกกับประเทศจีน ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สิ้นเดือนมกราคมนี้ ทางโครงการฯ เตรียมส่งนักวิจัยมุ่งหน้าสู่แอนตาร์กติก ขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก รวมทั้งศึกษาผลกระทบของมลพิษอื่นๆ เช่น ขยะทะเล และไมโครพลาสติกที่มีต่อระบบนิเวศที่แอนตาร์กติก อีกด้วย
ในปีนี้ ทางโครงการฯ จะส่งนักวิจัย 3 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยบูรพาและช่างภาพ 1 คน เพื่อไปร่วมสำรวจคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีน คณะที่ 41 (CHINARE 41) ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (PRIC) โดยทีมวิจัยจะศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติกและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเล ณ บริเวณสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) และพื้นที่ใกล้เคียง ทวีปแอนตาร์กติก เป็นระยะเวลา 16 วัน (ระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568)
นอกจากนี้ การไปครั้งนี้จะมีการเก็บภาพและวิดิโอ เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือและสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยขั้วโลกของไทย เนื่องในโอกาสปี 2568 นี้ เป็นปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมทั้งเป็นการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย
ด้าน ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยไทยผู้เปิดประตูสู่งานวิจัยสภาพภูมิอากาศขั้วโลกคนแรกๆ ของประเทศไทย ที่มีโอกาสเดินทางไปที่แอนตาร์กติก และอาร์กติกหลายครั้ง จะเป็นหนึ่งในนักวิจัยที่จะเดินทางไปครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ของตัวเอง และคาดว่าน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างที่ขั้วโลกใต้มากกว่าที่เคยไปครั้งก่อนๆ เพราะตอนนี้โลกของเราได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมาก อากาศร้อน ก็ร้อยสุดโต่ง หนาว ก็หนาวสุดโต่ง การไปครั้งนี้จะไปสำรวจด้วยว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้มีการละลายเนื่องจากโลกร้อนมากแค่ไหน และทางทีมยังมีแปลนที่จะใช้เครื่องโดรนใต้น้ำ เพื่อสำรวจสิ่งมีชีวิตในน้ำบริเวณขั้วโลกด้วย
“การเดินทางเข้าร่วมการวิจัยกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีนครั้งนี้ จะช่วยยกระดับความก้าวหน้าของงานวิจัยและนักวิจัยไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้มแข็งและส่งเสริมความยั่งยืนของงานวิจัยขั้วโลกและสิ่งแวดล้อมทางทะเลขั้วโลก และยังการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลในทวีปแอนตาร์กติก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประกอบการศึกษาอื่นเพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการเมื่อต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงต่อไปในอนาคตของประเทศไทยต่อไป” ศ.ดร.สุชนา กล่าว

- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
- วิกฤตอากาศดึงเศรษฐกิจทรุด UN ชี้ต้องลดการปล่อยคาร์บอน เศรษฐกิจโลกถึงจะฟื้น!
- รู้จัก “เสวี่ยหลง 2" เรือตัดน้ำแข็งขั้วโลกสุดล้ำจากจีน สัญลักษณ์ “ไทย-จีน” ร่วมรับมือโลกรวน
ที่มาข้อมูล : ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์
ที่มารูปภาพ : ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์
TNNThailand