ภาวะโลกเดือด! คาดการณ์จะเกิด "ปะการังฟอกขาว" เป็นวิกฤตโลก

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า สถานการณ์โลกร้อน โลกเดือดส่งผลกระทบต่อนิเวศทางทะเลอย่างเห็นได้ชัด  จึงได้สั่งให้ติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมความพร้อมในการรับมือและดำเนินการวางแผนเฝ้าระวังสถานการณ์ปะการังฟอกขาว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในฤดูร้อนช่วงเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม 

โดยในปีนี้ได้คาดการณ์ว่าจะเกิด ปะการังฟอกขาวเป็นวิกฤตโลก จึงได้ร่วมกับเครือข่ายอนุรักษ์ปะการัง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาว โดยมีระบบติดตาม เฝ้าระวัง การตรวจวัดอุณหภูมิใต้ทะเล หากพบน้ำทะเลสูงขึ้นผิดปกติ จะลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดปัญหาต่อปะการัง   ทั้งการท่องเที่ยว การดำน้ำ และหากจุดปะการังฟอกขาวที่รุนแรงก็จะเพื่อประเมินและพิจารณาในการตัดสินใจย้ายปะการังไปไว้ในที่ปลอดภัยบริเวณพื้นที่ทะเลที่มีอุณหภูมิเย็น เพื่อปะการังจะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้ง

ภาวะโลกเดือดยังสร้างความเสียหายต่อหญ้าทะเล ทำให้หญ้าทะเลเกิดความเสื่อมโทรมและตายในที่สุด โดยปกติหญ้าทะเลที่ตายใบจะร่วงแล้วงอกขึ้นมาใหม่ แต่ในปีนี้นับเป็นปีแรกที่สถานการณ์โลกเดือดทำให้เหง้าของหญ้าทะเลเกิดการเน่าเปื่อย เนื่องจากดินมีความร้อนสูงกว่าปกติ จึงส่งผลทำให้หญ้าทะเลเกิดการอืดแห้งนาน และหญ้าทะเลที่หายไปยังส่งผลกระทบต่อพะยูน และเต่าทะเล จึงต้อง ได้ดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการในการแก้ปัญหาหญ้าทะเลเสื่อมโทรม เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพแหล่งหญ้าทะเลให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม

นายปิ่นสักก์ ระบุด้วยว่า ภาวะโลกเดือดยังส่งผลต่อความสมดุลเพศของเต่าทะเล เนื่องจากอุณหภูมิเป็นตัวกำหนดเพศของเต่าทะเล ในอดีตสามารถรักษาสมดุลให้มีเพศผู้และเพศเมียอย่างละครึ่ง ปรากฏว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกเดือดทำให้เต่าเพศเมียเยอะขึ้นเพศผู้ก็ลดลง ในส่วนปัญหาที่พบเจอเพศผู้ลดน้อยลงไม่มีการผสมพันธุ์ ทำให้เกิดเป็นไข่ลมและเน่าเสียได้ ซึ่งจะส่งผลอาจจทำให้จำนวนเต่าทะเลลดลง