
สรุปข่าว
อาจารย์น้องหญิง คือใคร?
ในช่วงที่ผ่านมา ชื่อของ "อาจารย์น้องหญิง" หรือ นางสาวโสรวีร์ วัย 38 ปี ได้กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโซเชียลมีเดีย จากการอ้างว่าตนเองสามารถสื่อสารกับ "พระพุทธเจ้า 5 พระองค์" และได้รับ "คลื่นพลังบุญ" มาใช้ในการรักษาโรคให้กับผู้คนมากมาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ณ สถานที่ที่เรียกว่า "ดินแดนธรรมสุขขาววะดี" ในจังหวัดอุดรธานี

น้องหญิง ได้เล่าถึงที่มาของ "คลื่นพลังบุญ" ว่าเธอสามารถรับพลังบุญจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งประกอบด้วย พระกุสตะสัญโค พระโกนาคะมะโน พระกัตตะโพ พระโคตะโม และพระศรีอริยเมตรัย โดยน้องหญิงจะเป็นผู้รับฟังการสื่อสารจากพระพุทธเจ้า ส่วนอาจารย์ชายจะเป็นผู้ติดต่อฌานกับพระพุทธเจ้า เพื่อขอให้ส่งคลื่นพลังบุญมารักษาโรคให้แก่ผู้ป่วย ด้วยวิธีการที่เรียบง่ายเช่นนี้ ผนวกกับการให้การรักษาฟรี จึงทำให้ผู้คนแห่แหนมาที่ดินแดนธรรมสุขขาววะดีกันอย่างไม่ขาดสาย


อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างของอาจารย์น้องหญิงเกี่ยวกับ "คลื่นพลังบุญ" นั้น ยังเป็นที่ถกเถียงกันในแง่ของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาด้วยวิธีนี้ นักวิทยาศาสตร์และแพทย์บางท่านมองว่า การอ้างสรรพคุณเกินจริงของพลังบุญ อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความเชื่อมั่นเกินเหตุ และละเลยการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาว

การเกิดขึ้นของกระแสน้องหญิงและคลื่นพลังบุญในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังความเชื่อและศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก ที่พร้อมจะยึดเหนี่ยวกับสิ่งที่อยู่เหนือการอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นกำลังใจและความหวังในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ แต่ขณะเดียวกัน สังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จำเป็นต้องติดตามตรวจสอบการทำงานของอาจารย์น้องหญิงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการเคารพในความเชื่อ และการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน ควบคู่กันไป
- วิจัยเผยทะเลอาจเคยเป็นสีเขียว และในอนาคตอาจกลายเป็นสีม่วง
- วงปีต้นไม้เผยความลับ โลกเริ่มร้อนตั้งแต่ปี 1937
- พบสัญญาณสิ่งมีชีวิตไกลโลก 124 ปีแสง
- ความเชื่อ"มวยหญิงแก้บน"ต่อหน้า"หลวงพ่อทอง" วัดสุธาดล | เรื่องดีดีทั่วไทย | 17-04-25
- คืนชีพ "หมาป่าไดร์วูล์ฟ" สูญพันธุ์ไปแล้ว 12,500 ปี ก้าวแรกสู่การชุบชีวิตช้างแมมมอธ
- ทำไมคนไทย ควรเข้าใจ “ขนาดแผ่นดินไหว” และ “รอยเลื่อน” ?
- ทำไมแผ่นดินไหวเมียนมาจึงมีความรุนแรงสูงอธิบายความเสียหายด้วยวิทยาศาสตร์
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand