พรีวิว เอฟเอ คัพ 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ : คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้

พรีวิว เอฟเอ คัพ 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ : คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้

พรีวิวเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ

คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้

สนาม : เวมบลีย์

เวลา : 22.30 น. เสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568

ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

คริสตัล พาเลซ

คริสตัล พาเลซ ของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ทำผลงานดีมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้ไปแค่ 2 เกมจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 4 และชนะไปถึง 8 เกม และล่าสุดก็ไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ สเปอร์ส 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ พาเลซ เก็บไปแล้ว 49 แต้มจาก 36 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง พวกเขาไม่ได้มีลุ้นอะไรในช่วงที่เหลือของฤดูกาลแล้ว เหลือแค่เล่นให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น

ส่วนใน เอฟเอ คัพ ต้องถือว่า พาเลซ มาได้ไกลมากๆ ในรอบรองชนะเลิศก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้แบบขาดลอย 3-0 ทำให้ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในที่สุด แม้ว่าจะต้องเจอกับของแข็งอย่าง แมนฯ ซิตี้ แต่ชั่วโมงนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะดูเป็นรองก็ตาม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น คริสตัล พาเลซ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ชีค ดูกูเร่ และ ชาดี้ ริอัด เท่านั้น เนื่องจากยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ คริสตัล พาเลซ จะมาในระบบ 3-4-2-1 แนวรุกจะใช้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี อิสไมล่า ซาร์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ คอยสร้างสรรค์เกม ส่วนแดนกลางจะมี อดัม วอร์ตัน คุมเกมร่วมกับ เจฟเฟอร์สัน เลร์มา

สรุปข่าว

ศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ คริสตัล พาเลซ จะพบกับ แมนฯ ซิตี้ ที่สนาม เวมบลีย์

พรีวิวเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ

คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ซิตี้

สนาม : เวมบลีย์

เวลา : 22.30 น. เสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568

ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

คริสตัล พาเลซ

คริสตัล พาเลซ ของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ทำผลงานดีมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้ไปแค่ 2 เกมจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 4 และชนะไปถึง 8 เกม และล่าสุดก็ไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ สเปอร์ส 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ พาเลซ เก็บไปแล้ว 49 แต้มจาก 36 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง พวกเขาไม่ได้มีลุ้นอะไรในช่วงที่เหลือของฤดูกาลแล้ว เหลือแค่เล่นให้ครบตามโปรแกรมเท่านั้น

ส่วนใน เอฟเอ คัพ ต้องถือว่า พาเลซ มาได้ไกลมากๆ ในรอบรองชนะเลิศก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้แบบขาดลอย 3-0 ทำให้ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในที่สุด แม้ว่าจะต้องเจอกับของแข็งอย่าง แมนฯ ซิตี้ แต่ชั่วโมงนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะดูเป็นรองก็ตาม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น คริสตัล พาเลซ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ชีค ดูกูเร่ และ ชาดี้ ริอัด เท่านั้น เนื่องจากยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ คริสตัล พาเลซ จะมาในระบบ 3-4-2-1 แนวรุกจะใช้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี อิสไมล่า ซาร์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ คอยสร้างสรรค์เกม ส่วนแดนกลางจะมี อดัม วอร์ตัน คุมเกมร่วมกับ เจฟเฟอร์สัน เลร์มา

แมนฯ ซิตี้

ทีมเรือใบสีฟ้ามีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นมากในช่วงหลัง หลังไม่แพ้ใครมา 10 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ และยังชนะไปได้ถึง 7 เกม โดยมีช่วงที่ชนะ 5 เกมรวดด้วย อย่างไรก็ตาม เกมล่าสุดถือว่าน่าผิดหวังไม่น้อย เมื่อทำได้แค่บุกไปเสมอกับทีมบ๊วยของตารางที่ตกชั้นไปแล้วอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีอยู่ 65 แต้มจากการลงเล่น 36 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง โดยเป้าหมายของ แมนฯ ซิตี้ ในเวลานี้นอกเหนือจากการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ แล้ว ก็คือต้องจบฤดูกาลในกลุ่มท็อป 5 ให้ได้ เพื่อกลับไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าอีกครั้ง

ส่วนใน เอฟเอ คัพ นั้น ถือว่า แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานมาตลอดในทุกรอบที่ผ่านมา ความโชคดีอีกอย่างก็คือพวกเขาแทบไม่ได้เจอทีมที่แข็งแกร่งเท่าไหร่นักด้วย แต่การบุกโค่น บอร์นมัธ 2-1 ในรอบก่อนรองฯ และการเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศถือว่าเป็นผลงานที่ดีเลยทีเดียว ทำให้พวกเขาผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศในที่สุด แถมยังไม่ต้องเจอกับทีมใหญ่ด้วย แต่คู่แข่งคือ คริสตัล พาเลซ ที่พวกเขาเคยถล่มในลีกมาแล้วในฤดูกาลนี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ โรดรี้, ออสการ์ บ็อบบ์, จอห์น สโตนส์ และ เนธาน อาเก้ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ซาวินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์ และ เฌเรมี่ โดกู ส่วนแดนกลางจะมี มาเตโอ โควาซิช คุมเกมร่วมกับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน : คริส ริชาร์ดส์, มาซ็องซ์ ลาครัวซ์, มาร์ก เกฮี : ดาเนียล มูนญอซ, อดัม วอร์ตัน, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา, ไทริค มิทเชลล์ : อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรชี่ เอเซ่ : ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรลลี่ : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, มาเตโอ โควาซิช : ซาวินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : พาเลซ โชว์ฟอร์มได้ดีมากในรอบที่แล้ว รวมถึงฟอร์มในช่วงหลังก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังดูเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ อยู่พอสมควร แม้ว่าการเจอกันระยะหลังๆ รูปเกมจะสู้ได้ดีก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญมักจะแพ้เรื่องความเฉียบคมอยู่เสมอ และเกมนี้ก็อาจจะเป็นแบบนั้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนฯ ซิตี้ เน้นมากๆ เพราะพวกเขาต้องการคว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นรางวัลปลอบใจให้ได้ หลังมีผลงานที่ตกต่ำลงไปมากในฤดูกาลนี้ รูปเกมที่ออกมาน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมมากกว่า แต่ พาเลซ ก็น่าจะมีโอกาสลุ้นบ้างเหมือนกัน แต่เมื่อวัดกันทีต่อทีแล้ว ยังเชื่อว่าเกมรุกของ ซิตี้ ยังมีประสิทธิภาพมากกว่า และน่าจะเบียดเอาชนะไปได้

สกอร์ที่คาด : คริสตัล พาเลซ แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : FA Cup