
สรุปข่าว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "รสเค็ม" ช่วยทำให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมและเอร็ดอร่อยมากขึ้น อย่างในสำรับอาหารไทยเองยังมีน้ำปลาพริกใช้เป็นเครื่องชูรสให้อาหารด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกที่ในหนึ่งวันคุณอาจจะบริโภคเกลือเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ
ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยแล้วประชาชนจะรับประทานเกลือประมาณ 3,600 มิลลิกรัม ในขณะที่ปริมาณเกลือที่นักโภชนาการแนะนำจะอยู่ที่ไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรืออย่างในประเทศญี่ปุ่น ประชาชนรับประทานเกลือเฉลี่ยสูงถึง 4,200 มิลลิกรัมต่อวันเลยทีเดียว ปริมาณเกลือที่มากขนาดนี้อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคไตได้ หรือใครที่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้อยู่แล้ว เกลืออาจจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการมิยาชิตะ ณ มหาวิทยาลัยเมจิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ประดิษฐ์ "ตะเกือบเพิ่มรสเค็ม" เพื่อช่วยเพิ่มความเค็มให้แก่อาหารที่มีปริมาณเกลือเพียงเล็กน้อย นี่อาจเป็นทางออกในการลดการบริโภคเกลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณเกลือในร่างกาย
ที่มาของภาพ Kirin Holdings
ในการทำงานของตะเกียบสร้างรสเค็มนี้ ตะเกือบข้างหนึ่งจะถูกต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ควบคุมขนาดเล็กที่สวมอยู่บนข้อมือของผู้บริโภค ซึ่งจะคอยจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อดึง "ไอออนของโซเดียม" ของเกลือที่ปะปนในอาหาร (โซเดียมคลอไรด์ คือ โมเลกุลของเกลือ) ขึ้นมาอยู่บริเวณผิวหน้าของอาหารให้มากขึ้น ส่งผลให้ไอออนโซเดียมสามารถสัมผัสกับตุ่มรับรสบนลิ้นของผู้บริโภคได้มากขึ้น เท่ากับว่าสามารถรับรสเค็มได้ดีขึ้นแม้จะใส่เกลือลดลง
ในการทดลอง นักวิจัยได้ให้อาสาสมัครรับประทานอาหารเจลที่มีปริมาณเกลือปกติด้วยตะเกียบธรรม เปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารเจลที่มีปริมาณเกลือลดลง 30% ด้วยตะเกียบเพิ่มรสเค็ม ผลปรากฏว่า อาสาสมัครสามารถรับรสเค็มของอาหารเจลที่ลดปริมาณเกลือ ได้มากกว่าอาหารเจลที่มีปริมาณเกลือปกติ เมื่อคำนวณแล้วจึงประมาณได้ว่าตะเกียบเพิ่มรสเค็มนี้ ช่วยเพิ่มความเค็มให้อาหารได้ 1.5 เท่า (เมื่อเทียบในปริมาณเกลือที่เท่ากัน)
ที่มาของภาพ Kirin Holdings
หลังจากนั้นจึงมีการทดลองเพิ่มเติมในซุปมิโซะที่ลดปริมาณเกลือ เปรียบเทียบกับซุปมิโซะปกติ พบว่าเพียงแค่นำตะเกียบเพิ่มรสเค็มจุ่มลงไปก็สามารถชูรสให้กับซุปได้ อีกทั้งนอกจากรสเค็มแล้ว ผู้บริโภคยังรู้สึกถึงความกลมกล่อมและความหวานของน้ำซุปได้มากขึ้นด้วย
นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ในอนาคตนักวิจัยจะพัฒนาให้ตะเกียบนี้มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ควบคุมบริเวณข้อมืออีก โดยหวังจะให้มันมีส่วนช่วยปรับปรุงโภชนาการของผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป ให้เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารและมีสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Reuters
- "ร่วง" หรือ "รอด" ? ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม กำลังซื้อหด-โตแผ่ว l World Wide Wealth
- แกงไทย “พะแนง” ติดอันดับ 2 ของโลก รองจากแกงมาเลเซีย
- โลกร้อนทำชีสเปลี่ยน! วัวกินอะไร ส่งผลถึงรสชาติบนจาน
- ราคาอาหารทั่วโลกพุ่งสูง จากมาตรการภาษีทรัมป์
- “ส้อมวัดความเค็ม” จิ้มปุ๊บ รู้ปั๊บ เตือนผู้บริโภคเลี่ยงรับประทานอาหารเค็มเกิน
- จุดแข็งความอร่อย! กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเมืองแห่งอาหารอันดับ 2 ของโลก
- กินส้มวันละลูก ลดความเสี่ยงซึมเศร้า มากถึง 20%
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand