ส่อง 4 หุ้น Defensive พื้นฐานแกร่ง-ปันผลเด่น

บล.กสิกรไทยระบุว่าหุ้น Defensive Stock เป็นหุ้นที่มีความทนทานในทุกสภาพตลาด ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง หุ้นกลุ่มนี้จะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำและมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ก็อาจเป็นหุ้นที่กำไรเติบโตไม่หวือหวา หรืออาจไม่ค่อยมีเรื่องราวการเติบโตที่จะนำมาเป็นจุดขายของหุ้นสักเท่าไหร่แต่เป็นหุ้นที่ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดี

- BGRIM  ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61.50 บาท ปัจจัยที่ลดแรงกดดันด้านลบจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น 

1.ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น รอบ ก.ย.-ธ.ค.และคาดจะเพิ่มต่อเนื่อง 

2.ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 7-10% จากผู้ใช้อุตสาหกรรมรายใหม่ 55 เมกะวัตต์ในปี 65 

3. แผนในการนำเข้า LNG 0.5 ล้านตันต้นปี 66 

4. เป้าหมายบริษัทที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า จำนวน 1,000 เมกะวัตต์ในปี 65

-  BH ถือ ราคาเป้าหมาย 181 บาท คาดได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเปิดประเทศ BH มีสัดส่วนรายได้จากต่างชาติมากที่สุดในกลุ่มที่ 65% แบ่งเป็นผู้ป่วยที่บินเข้ามารักษาตัวที่ 52% และชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยที่ 13% การกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติจะช่วยหนุนรายได้ เราลดคำแนะนำ BH เป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” หลังราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายกลางปี 66 ของเราที่ 181 บาท

 -  CPALL ซื้อ ราคาเป้าหมาย 73.60  บาท ครึ่งหลังปีนี้ เราคาดว่าการบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางคาดจะกระตุ้นการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวในครึ่งหลังปีนี้ คาด CPALL จะได้รับจากช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวใน 4Q65 จากสัดส่วนยอดขายจากนักท่องเที่ยวที่คาดอยู่ที่ประมาณ 10% ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19

 ขณะที่ต้นทุนโลจิสติกส์และสาธารณูปโภคที่สูงขึ้นคาดจะจำกัดการเติบโตของอัตรากำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้ 

-  GPSC ซื้อ ราคาเป้าหมาย 83.50 บาท เนื่องจาก 31% ของกำลังการผลิตอยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟาประเภท SPP เราจึงคาดว่าบริษัทฯ จะได้ประโยชน์จากการขึ้นค่า Ft ที่ 0.40 บาท เป็นอย่างน้อยที่สุดในการปรับขึ้นครั้งที่ 3 (เดือนก.ย.-ธ.ค.65) เราคำนวณราคาเป้าหมายกลางปี 66 อิงด้วยวิธี SOTP ที่ 83.50 บ. การเติบโตหลักคาดจะมาจากการขยายกำลังการผลิตโดยเฉพาะกับกลุ่ม PTT และธุรกิจที่ไม่ใช่โรงไฟฟ้า เช่น การผลิตแบตเตอรี่

ที่มา   บล.กสิกรไทย

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์