สสว.ห่วงเอสเอ็มอีไร้แผนปรับตัว แนะรัฐเพิ่มมาตรการ

วันนี้(14เม.ย.63) น.ส.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในเรื่องการปรับตัว และมาตรการเอสเอ็มอีในภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 จากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ จำนวน 2,655 ราย จาก 21 สาขาธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็นภาคการผลิต จำนวน 545 ราย ภาคการค้า จำนวน 997 ราย และภาคการบริการ 1,113 ราย จากผลสำรวจพบว่า เอสเอ็มอียอดขายของกิจการในเดือนมีนาคม 2563 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 กิจการส่วนใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 87.2% หรือมีจำนวนมากถึง 2,315 ราย ตอบว่ามีรายได้ลดลง โดยสาขาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ร้านอาหารที่ยังไม่เข้าร่วมดิลิเวอรีและอุปโภคบริโภคดั้งเดิม          

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามเอสเอ็มอีเรื่องของการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 พบว่ากลุ่มที่ยอดขายลดลง 2,315 ราย ส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนในการปรับตัว คิดเป็นสัดส่วน 33.5% รองลงมา คือ การลดต้นทุนทางธุรกิจ คิดเป็นสัดส่วน 18.8% เพิ่มช่องทางการตลาด อาทิ ออนไลน์และ ดิลิเวอรี คิดเป็นสัดส่วน 12.8% หยุดกิจการชั่วคราว 8.5% จัดโปรโมชั่น 6.2% ลดจำนวนแรงงานและลดเงินเดือน 5.4% เปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่นหรือหารายได้เสริม 4.7% ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดอื่นๆ 3.8% ปรับราคาสินค้าและบริการ 3.7% ปรับไปตามแต่ละสถานการณ์ 1.4% และอื่นๆ 1.2%                   

สำหรับมาตรการที่เอสเอ็มอีเห็นว่าช่วยธุรกิจได้ดีที่สุด 5 อันดับแรก คือ  1.การลดหย่อนภาษี 19.7%  2.ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 14.4%  3.ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 10.2%   4.ผ่อนผันระยะเวลาการชำระหนี้ 8.2% และ  5.ลด-เลื่อนค่าสาธารณูปโภค 6.1%