ล็อคลงทุนหุ้นอานิสงส์ยุโรปนำเข้าสัตว์ปีก-น้ำกร่อย

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวระยะสั้นตาม sentiment ต่างประเทศ แต่เรายังไม่ bullish ตลาด แนะนำ buy on dip เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ทั้งนี้เน้น Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยเด่นใน 3  ธีม 1. Global Policy Play เช่น EA, KCE  2. 4Q63 Earnings Play  BDMS,GFPT ,CPF ,SPALI ,BCH ,BGRIM 3.  Dividend Play เช่น TUv SPALI, SCC, SCCC , DTAC อย่างไรก็ตาม  เลือกเก็งกำไรใน CPF, GFPT, TFG จากประเด็นยุโรปเพิ่มโควตานำเข้าสัตว์ปีก

นอกจากนี้เก็งกำไร TSR จากสถานการณ์น้ำกร่อย และเก็งกำไร STARK คาดงบปี 63-64 โตก้าวกระโดด หนุนจากรายได้ในไทยและเวียดนามตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ขณะที่ บล. เอเซีย พลัส แนะนำหุ้น PTT เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 50 เหรียญฯ ถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันอย่าง PTT รวมถึงผลการดำเนินงานค่อยๆฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในภาพใหญ่ หนุนความต้องการใช้ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมีฟื้นตัวประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 64 เท่ากับ 48.50 บาท/หุ้น มี Upside ประมาณ 23% 

หุ้น KBANK แนวโน้ม Credit Cost ปี  64 ที่ลดลงจากเดิม 2.05% ในปีก่อนมาที่ 1.6% หลังลูกหนี้ที่ออกจากมาตรการฯ  90% ชำระหนี้ตามปกติ (ข้อมูลจากงานแถลงเป้าหมายประจำปีของ KBANK) ฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี  64 – 65 จากเดิมประเมินไว้ 2.1 – 2.2 หมื่นล้านบาท เป็น 3.48 หมื่นล้านบาท (+18% yoy) และ 3.76 หมื่นล้านบาท (+8% yoy) โดยภายใต้ประมาณการใหม่ หนุน ROE ระยะยาวจาก 7% เป็น 9.2% ได้  FV ปี  64 ที่ 155 บาท (เดิม 126 บาท) มี Upside ถึง 22%

หุ้น PTTEP  แนวโน้มกำไรปกติ 1Q64 จะประคองตัวใกล้เคียงกับ 4Q63 ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยยืนได้เหนือราคา 50 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล และต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง ทิศทางกำไรปกติทั้งปี 64 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 10.8%yoy มาอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท FV ปี  64 ที่ 118 บาท/หุ้น

เกาะติดข่าวที่นี่