แรงซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า-สื่อสาร ดันหุ้นไทยยืนปิดบวก

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นปิดที่ 1,550.59 จุด บวก 6.83 จุด หรือ 0.44 % ระหว่างวันเคลื่อน ไหวสูงสุด 1,554.96 จุด และต่ำสุดที่ 1,537.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 99,228.68  ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงท้ายตลาด หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพักตัว โดยนักลงทุนรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบยการเงินหรือเอฟโอเอ็มซีของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ว่ามีมาตรการควบคุมบอนด์ยีลด์ไม่ให้เร่งตัวเกินไปอย่างไรบ้างทั้งนี้บอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวลงทำให้หุ้นในกลุ่มสื่อสารและโรงไฟฟ้าฟื้นกลับ หลังจากที่ในช่วงบ่ายดัชนีเข้าสู่แดนลบ

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามการประุชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ในวันที่ 11 มี.ค.นี้   ส่วนในประเทศเป็นเรื่องการมือง โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาด “อำนาจรัฐสภา” แก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ 11 มี.ค.นี้ รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองถ้าไม่รุนแรงไม่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ  ซึ่งการเมืองและการลงทุนต้องแยกออกจากกัน และก่อนหน้านี้เมื่อมีปัญหาการเมืองแต่ไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่เหมือนปัจจุบันทำให้สภาพคล่องเข้ามาในระบบส่งผลให้เศรษฐกิจไปได้

ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวลงในกลุ่มสื่อสารและโรงไฟฟ้า เช่น GPSC,ADVANC รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมหรือ DIF  และ  กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางหรือ บีทีเอสโกรท  ประ

เมินกรอบแนวรับที่ 1,540 จุด แนวต้านที่ 1,560 จุด

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย  บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีแรงซื้อกลับช่วงบ่ายโดยเฉพาะหุ้น defensive รวมถึงกองรีท DIF หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการ  Rotatio หรือสลับกลุ่มเล่นเป็นหุ้นขนาดกลาง เช่น JKN,WHA,HMPRO ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวก ยกเว้นเกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และอินโดนีเซียที่ปิดลบ โดยมองแนวโน้มหุ้นไทยไซด์เวย์อัพถ้าสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยและไม่หลุด 1,540 จุด ก็ไปต่อได้ แนะลงทุนหุ้นเดินเรือและท่องเที่ยวประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,540-1,565 จุด