เงินบาทควงริงกิตอ่อนยืนอันดับบ๊วยเทียบภูมิภาค

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.60  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  โดยระยะนี้มองบาทอ่อนค่า จากกรณีธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของวัฎจักรเร็วขึ้น เมื่อเทียบกับค่ากลางจาก dot plots เมื่อเดือนมี.ค. ที่บ่งชี้ว่าดอกเบี้ยจะถูกตรึงไว้ตลอดปี 2566

 อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นตลาดคาดไว้ก่อนแล้วว่าดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566 แต่ประมาณการล่าสุดที่ออกมาบ่งชี้ว่าเฟดคาดว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปีดังกล่าว โดยผู้เล่นปรับสถานะการลงทุนช่วงสั้น และเพิ่มความระมัดระวังว่าเฟดจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด ซึ่งการลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ (QE taperin) จะมีความชัดเจนมากขึ้นในเวที Jackson Hole symposium ในเดือน ส.ค. นี้

ปัจจัยชี้นำยังอยู่ที่การย่อยข่าวเฟด ตัวเลข จีดีพี ของสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ส่วนในประเทศติดตามข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือนพ.ค. และผลประชุมกนง. ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ตามเดิม

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-17 มิ.ย.ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 2.3 พันล้านบาท  และพันธบัตรไทย 2.57 หมื่นล้านบาท  แต่ทิศทางกระแส fund flow จะผันผวนมากขึ้นหลังเซอร์ไพรส์จากเฟด

ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-18 มิ.ย.  ที่ผ่านมาพบว่า รูปี-อินเดียอ่อนสุด 1.97% รองลงมาคือวอน-เกาหลีใต้   1.86% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 1.43% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.39% หยวน -จีน1.18% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.82% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.64% 

บาท-ไทย 0.41%  ริงกิต-มาเลเซีย 0.41% ถือว่าอ่อนค่าน้อยสุด  ยกเว้นดอง-เวียดนามแข็ง 0.17%  อย่างไรก็ตาม โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรับมือความผันผวน