กลุ่มพลังงานหนุนหุ้นไทยปิดบวก ระวัง!แรงขายทำกำไร

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,586.98   จุด บวก 4.91 จุด หรือ 0.31 % โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ 1,598.39 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,585.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100,400.79 ล้านบาทว่า ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียบวกยกแผง เช่น ฮ่องกงบวก 2.5% เกาหลีใต้บวก 1.6%  จีนบวก 1.1%  

หลังจากอย.สหรัฐ หรือเอฟดีเอรับรองวัคซีนไฟเซอร์ เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ ให้ใช้เป็นการทั่วไป แทนฉุกเฉิน เพื่อสกัดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า  ซึ่งหนุนหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ปรับตัวเพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะราคาน้ำมันปรับขึ้น 5% ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ซื้อขายคึกคัก เช่น PTTEP บวก 3.8% PTT 2.8 % TOP 2.7% 

ส่วนหุ้นที่ถูกเทขายในวันนี้จะเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงมาก่อนหน้านี้ เช่น GULF ลง 3.2% KTC ลง 1.9%  รวมถึงหุ้นส่งออก

หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าต่ำกว่า 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กดดันหุ้นส่งออก เช่น KCE ลดลง 1.5% HANA 0.3% 

ขณะเดียวกันมีข่าวดีจากจำนวนผู้ติดเชื้อในวันนี้อยู่ระดับ 1.7 หมื่นคนต่อวัน  ซึ่งลดลงในรอบ 21 วัน ประกอบกับ Moody’s คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ Baa1 และมุมมองความน่าเชื่อถือที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) และมีมุมมอบบวกต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2% ปีหน้าโต 5.8% เป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย

นอกจากนี้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันหุ้นไทยวิ่งขึ้นแรง 90 จุดเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียต้องระวังแรงขายทำกำไร และมีแนวต้านสำคัญที่ 1,600 จุด ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์มีการประชุมที่สำคัญตลาดรอดูคือ การประชุมประ จำปีของธนาคารกลางสหรัฐ  (เฟด) เมืองแจ็คสันโฮลในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ ประธานเฟดจะส่งสัญญาณคิวอีและดอกเบี้ยหรือไม่  ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงในระยะข้างหน้า

ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นธีมหุ้นเปิดเมืองที่ outperform กว่าตลาด  หุ้นเด่นแนะนำ MAJOR,M,MTC ประเมินกรอบเคลื่อน ไหวพรุ่งนี้ 1,550-1,600 จุด