
สรุปข่าว
วันนี้ ( 12 พ.ย.64) หุ้นไทยปิดตลาด ดัชนีอยู่ที่ 1,633.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือ 0.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70,359.34ล้านบาท โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,640.66 จุด และต่ำสุด 1,632.88 จุดโดยตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน จากปัจจัยในประเทศที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.)หลายบริษัทประกาศงบไตรมาส3 ออกมาดี อีกทั้ง ศบค.ยังปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจาก7 จังหวัดเหลือ 6 จังหวัด แม้ยังเลื่อนเปิดบริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ
โดย นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์หน้านักลงทุนยังคงสนใจการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน และคาดว่าบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการจ่ายเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์ โดยอนุญาตให้สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลประจำปีได้อีกครั้งในอัตราไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี64 โดยมองว่าธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่งเพียงพอ เช่นเดียวกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส3ที่ผ่านมา
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบไม่กว้างในช่วงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 ทำให้มีการเล่นหุ้นตามงบฯ และตามแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 ทำให้ตลาดฯมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ไม่ชัดเจน แต่ก็ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับขึ้นมาได้บ้าง ซึ่งก็เป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไร
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งตัวในกรอบไม่กว้างเช่นกัน แต่ตลาดในแถบเอเชียเหนือจะปรับขึ้นได้ดี ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ชะลอหลังจากที่วานนี้ปรับขึ้นได้ดี
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์ คาดว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับขึ้นได้หลังสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการแล้ว โดยให้ติดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/64 ของไทยที่จะออกมาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และติดตาม GDP งวดไตรมาส 3/64 ของญี่ปุ่น และยุโรปโซนต่อไปด้วย รวมถึงติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรด้วยว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือราคาสินค้าเกษตรอย่างไร พร้อมให้แนวรับ 1,625-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,141.68 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,715.26 ล้านบาท ปิดที่ 20.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,648.02 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ข้อมูล: marketdata.set.or.th
ภาพประกอบ: AFP
- “หุ้นไทย” หมดแรง GDP-EPS โดนหั่นเรียบ “ภาษีสหรัฐฯ” ตัดสิน ไปต่อหรือรอ “1,000 จุด”
- หุ้นไทยไร้เสน่ห์ เพราะอะไร "หลบภัยตัวไหนดี"
- นาทีทองช้อนหุ้นไทย! ตัวไหนน่าลงทุนระยะสั้น-ยาว เช็กที่นี่ !
- ไตรมาส1 กำไร บจ. แกร่ง! SET ลุ้นโต 4% กนง.อาจไม่ลดดอกเบี้ย แนะหุ้นเด่น GULF ADVANC MTC
- หุ้นไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า ตัวไหนน่าเก็งกำไร เช็กที่นี่ !
- 5 อันดับ “หุ้นไทย” ผลตอบแทน “สูงสุด-ต่ำสุด” ตั้งแต่ “ทรัมป์” ประกาศ "ภาษีสหรัฐฯ"
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand