วิจัยกรุงศรี เปิดเผยผลการประเมินสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ล่าสุดว่า กรณีจีนตอบโต้กลับสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่มร้อยละ 10 อาจมีผลบวกสุทธิต่อไทยเล็กน้อย หลังจากที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์
ล่าสุดรัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 15 และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตราร้อยละ 10 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การประเมินผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างกันของสหรัฐฯกับจีนล่าสุด โดยใช้แบบจำลองการวิเคราะห์การค้าโลก (Global Trade Analysis Project: GTAP) พบว่าปริมาณการส่งออกและ GDP ของไทย จะเพิ่มขึ้นจากกรณีฐานร้อยละ 0.27 และร้อยละ 0.02 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเชิงบวกสุทธิต่อไทยอาจมีเพียงเล็กน้อยและจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมบางกลุ่มเท่านั้น อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ จะได้รับผลเชิงลบเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังมีความเสี่ยงที่จะรุนแรงขึ้นได้อีกในระยะถัดๆ ไป รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ซึ่งนับเป็นประเด็นท้าทายที่สำคัญต่อทิศทางและแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้
สำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 วิจัยกรุงศรีประมาณการไว้ที่ที่ร้อยละ 2.9
สรุปข่าว
วิจัยกรุงศรี เปิดเผยผลการประเมินสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ล่าสุดว่า กรณีจีนตอบโต้กลับสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่มร้อยละ 10 อาจมีผลบวกสุทธิต่อไทยเล็กน้อย หลังจากที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์
ล่าสุดรัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 15 และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตราร้อยละ 10 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การประเมินผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างกันของสหรัฐฯกับจีนล่าสุด โดยใช้แบบจำลองการวิเคราะห์การค้าโลก (Global Trade Analysis Project: GTAP) พบว่าปริมาณการส่งออกและ GDP ของไทย จะเพิ่มขึ้นจากกรณีฐานร้อยละ 0.27 และร้อยละ 0.02 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเชิงบวกสุทธิต่อไทยอาจมีเพียงเล็กน้อยและจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมบางกลุ่มเท่านั้น อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ จะได้รับผลเชิงลบเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังมีความเสี่ยงที่จะรุนแรงขึ้นได้อีกในระยะถัดๆ ไป รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ซึ่งนับเป็นประเด็นท้าทายที่สำคัญต่อทิศทางและแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้
สำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 วิจัยกรุงศรีประมาณการไว้ที่ที่ร้อยละ 2.9
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
TNNThailand