
บริษัทวิจัยตลาด “โร โมชัน” ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก เดือนพฤษภาคม มีจำนวน 1.6 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดขายที่แข็งแกร่งในตลาดจีนช่วยชดเชยการชะลอตัวของตลาดอเมริกาเหนือ โดยยอดขาย EV ในจีนแตะ 1.02 ล้านคันในเดือนดังกล่าว เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 24 เมื่อเทียบรายปี และนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ทะลุหลักล้านคัน อานิสงส์จากความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งในประเทศและการส่งออกของผู้ผลิตจีนอย่าง BYD ไปยังตลาดเกิดใหม่
สรุปข่าว
บริษัทวิจัยตลาด “โร โมชัน” ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก เดือนพฤษภาคม มีจำนวน 1.6 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดขายที่แข็งแกร่งในตลาดจีนช่วยชดเชยการชะลอตัวของตลาดอเมริกาเหนือ โดยยอดขาย EV ในจีนแตะ 1.02 ล้านคันในเดือนดังกล่าว เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 24 เมื่อเทียบรายปี และนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ทะลุหลักล้านคัน อานิสงส์จากความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งในประเทศและการส่งออกของผู้ผลิตจีนอย่าง BYD ไปยังตลาดเกิดใหม่
“ชาร์ลส์ เลสเตอร์” ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของ “โร โมชัน” ระบุว่า การส่งออกของ BYD ไปยังเม็กซิโก อาเซียน รวมถึงอุซเบกิสถาน ช่วยกระตุ้นยอดขายในภูมิภาคเหล่านี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลระบุว่า ตลาดยุโรปมียอดขายอยู่ที่ 330,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.2 ขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 160,000 คัน เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 7.5 สำหรับยอดขายในส่วนอื่น ๆ ของโลก อยู่ที่ 150,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 38
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกเผชิญกับมาตรการภาษีนำเข้าที่อัตราร้อยละ 25ข องสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายระงับการคาดการณ์ยอดขายสำหรับปีนี้
ขณะที่จุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำแพงภาษีมีส่วนขัดขวางการเติบโตของตลาด EV ในอเมริกาเหนือ และแม้มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับรถ EV ในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ แต่ก็จะเริ่มยกเลิกตั้งแต่ปี 2569 ส่งผลให้ผู้ซื้อลังเลใจ
ที่มาข้อมูล : บริษัทวิจัยตลาด “โร โมชัน”
ที่มารูปภาพ : TNN