"Kodak" พลิกเกมตลาดเปิดตัวกล้องสไตล์วินเทจ

บริษัท อีสต์แมน โกดัก ผู้บุกเบิกวงการถ่ายภาพระดับโลก สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว "Kodak Charmera" กล้องดิจิทัลของเล่นขนาดจิ๋วที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องยุค 1980 โดยร่วมมือกับบริษัท Reto ผลิตออกมาในดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงเสน่ห์ของความวินเทจ จนถูกยกให้เป็นทั้งเครื่องมือถ่ายภาพและแฟชั่นไอเท็มในเวลาเดียวกัน

กล้องรุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเพียง 30 กรัม ขนาดกะทัดรัดเพียง 2.2 นิ้ว สามารถพกพาได้สะดวก วางจำหน่ายใน 7 สไตล์ มาพร้อมฟิลเตอร์ที่เลียนแบบฟิล์มเก่ายุคคลาสสิก เสริมประสบการณ์ภาพถ่ายแบบย้อนยุคที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ โดย Kodak วางจำหน่ายในรูปแบบ "Blind Box" หรือกล่องสุ่ม ทำให้ผู้ซื้อไม่รู้ว่าตนเองจะได้สีหรือสไตล์ใดจนกว่าจะเปิดออก สร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการซื้อซ้ำในกลุ่มนักสะสม

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 952 บาท สำหรับการซื้อแบบกล่องสุ่ม 1 ชิ้น และ 179.94 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,714 บาท สำหรับเซ็ตครบทุกสี กระแสตอบรับแรงเกินคาดจนสินค้าหมดสต็อกในเว็บไซต์ของ Kodak และในร้านตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน Kodak ต้องขึ้นประกาศเตือนว่าการจัดส่งจะล่าช้า 1-10 วันทำการ และบางภูมิภาคอาจไม่สามารถสั่งซื้อได้เนื่องจากสินค้าขาดตลาด

สรุปข่าว

Kodak เปิดตัวกล้องดิจิทัลของเล่น Kodak Charmera สไตล์ยุค 1980 ขนาดจิ๋วทีผสานแฟชั่นกับความ 怀旧 (นอสทัลเจีย) ได้อย่างลงตัว จนทำยอดขายพุ่งหมดเกลี้ยงออนไลน์

บริษัท อีสต์แมน โกดัก ผู้บุกเบิกวงการถ่ายภาพระดับโลก สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว "Kodak Charmera" กล้องดิจิทัลของเล่นขนาดจิ๋วที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องยุค 1980 โดยร่วมมือกับบริษัท Reto ผลิตออกมาในดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงเสน่ห์ของความวินเทจ จนถูกยกให้เป็นทั้งเครื่องมือถ่ายภาพและแฟชั่นไอเท็มในเวลาเดียวกัน

กล้องรุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเพียง 30 กรัม ขนาดกะทัดรัดเพียง 2.2 นิ้ว สามารถพกพาได้สะดวก วางจำหน่ายใน 7 สไตล์ มาพร้อมฟิลเตอร์ที่เลียนแบบฟิล์มเก่ายุคคลาสสิก เสริมประสบการณ์ภาพถ่ายแบบย้อนยุคที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ โดย Kodak วางจำหน่ายในรูปแบบ "Blind Box" หรือกล่องสุ่ม ทำให้ผู้ซื้อไม่รู้ว่าตนเองจะได้สีหรือสไตล์ใดจนกว่าจะเปิดออก สร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการซื้อซ้ำในกลุ่มนักสะสม

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 952 บาท สำหรับการซื้อแบบกล่องสุ่ม 1 ชิ้น และ 179.94 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,714 บาท สำหรับเซ็ตครบทุกสี กระแสตอบรับแรงเกินคาดจนสินค้าหมดสต็อกในเว็บไซต์ของ Kodak และในร้านตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่ ขณะเดียวกัน Kodak ต้องขึ้นประกาศเตือนว่าการจัดส่งจะล่าช้า 1-10 วันทำการ และบางภูมิภาคอาจไม่สามารถสั่งซื้อได้เนื่องจากสินค้าขาดตลาด

ความสำเร็จของ Charmera เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ทางการเงินที่ยากลำบากของ Kodak ในรายงานไตรมาส 2 บริษัทขาดทุนสุทธิ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พลิกจากกำไร 26 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ลดลงกว่า 2 เท่า หรือ 200% อีกทั้งกำไรขั้นต้นหดตัวร้อยละ 12 และยังมีภาระหนี้สินจำนวนมาก จนต้องเปิดเผยว่ามี “ข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญ” ต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ขายหมดเกลี้ยงของ Charmera สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสามารถเจาะตลาดใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่กำลังให้ความสนใจกับเทรนด์ "analog wellness" และความนิยมการถ่ายภาพแบบฟิล์ม ซึ่งถูกยกให้เป็นกระแสสุขภาพและไลฟ์สไตล์แห่งปี 2025 อีกทั้งกลยุทธ์การตลาดแบบ Blind Box ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อแบบลุ้นโชคที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเดียวกัน

โมเดลธุรกิจนี้คล้ายกับความสำเร็จของ Pop Mart จากจีน ที่ใช้กลยุทธ์ Blind Box ดันยอดขายตุ๊กตา Labubu และของสะสมรุ่นต่าง ๆ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ในตลาดนักสะสมทั่วโลก Kodak จึงอาจถูกมองว่าได้หวนกลับเข้าสู่สมรภูมิใหม่ที่เชื่อมโยงทั้งความ怀旧 (นอสทัลเจีย) และการตลาดยุคใหม่เข้าด้วยกัน

แม้จะยังมีคำถามถึงเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว แต่ "Kodak Charmera" ก็พิสูจน์แล้วว่า Kodak ยังคงมีศักยภาพในการสร้างปรากฏการณ์ และจับกระแสผู้บริโภคได้อย่างแยบยล ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานอดีตเข้ากับความนิยมของปัจจุบันอย่างลงตัว 

ที่มาข้อมูล : https://www.cnbc.com/2025/09/11/kodak-vintage-style-toy-camera-chamera.html

ที่มารูปภาพ : -