เช่าที่ดิน 99 ปีไม้เด็ด “ฟิลิปปินส์” ดึงเงินลงทุน

เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์คอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ได้ลงนามประกาศใช้พระราชบัญญัติ แก้ไขกฎหมาย การเช่าของฟิลิปปินส์ โดยขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินของนักลงทุนต่างชาติสูงสุด 99 ปี จากเดิมสูงสุดคือ 75 ปี คือ ช่วงแรกเช่าได้ 50 ปี และต่อสัญญาได้อีกสูงสุด 25 ปี

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในการสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ยืดหยุ่น และทันสมัยมากขึ้น เพื่อดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ฟิลิปปินส์ 

คาดว่านโยบายนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนและการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม โรงงานผลิตและสายการประกอบ การแปรรูป เกษตรอุตสาหกรรม การพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม การท่องเที่ยว เกษตรกรรม วนเกษตร (Agro-forestry) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนกิจกรรมเชิงผลิตภาพที่รัฐกำหนดให้มีลำดับความสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้ฟิลิปปินส์แข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น ไทย ที่มีโครงสร้างพื้นฐานดีกว่าได้มากขึ้น” พร้อมเสริมว่าการให้เช่าระยะยาวจะช่วยให้นักลงทุนมีเวลาฟื้นตัวจากเงินลงทุน และสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่น โรงแรมที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว

จากข้อมูลของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ “การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติหรือFDI ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ลดลงร้อยละ 26.9 เหลือ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ”

หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงฟิลิปปินส์ จำกัดสิทธิการถือครองที่ดินโดยต่างชาติ แต่อนุญาตให้ทำสัญญาเช่าหลายทศวรรษได้

กฎหมายใหม่ของฟิลิปปินส์ ยังให้อำนาจประธานาธิบดีในการกำหนดระยะเวลาเช่าสั้นลง สำหรับนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบริการสำคัญหรืออุตสาหกรรมที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงของชาติ หรือโครงการสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยังลงนามในกฎหมายอีกฉบับเพื่อเพิ่มรายได้รัฐจากการทำเหมืองขนาดใหญ่ด้วยระบบภาษีตามผลกำไร ซึ่งนักลงทุนมองว่าจะช่วยดึงเงินลงทุนใหม่เข้าประเทศนี้ได้เพิ่มขึ้น

สรุปข่าว

ฟิลิปปินส์อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเช่าที่ดินได้ยาวนานสูงสุด 99 ปี เพื่อกระตุ้นการลงทุน โดยตรงนี้เป็นหนึ่งในแผนดึงดูดการลงทุนที่เริ่มใช้ในปีนี้

เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์คอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ได้ลงนามประกาศใช้พระราชบัญญัติ แก้ไขกฎหมาย การเช่าของฟิลิปปินส์ โดยขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินของนักลงทุนต่างชาติสูงสุด 99 ปี จากเดิมสูงสุดคือ 75 ปี คือ ช่วงแรกเช่าได้ 50 ปี และต่อสัญญาได้อีกสูงสุด 25 ปี

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนความพยายามของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในการสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ยืดหยุ่น และทันสมัยมากขึ้น เพื่อดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ฟิลิปปินส์ 

คาดว่านโยบายนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนและการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม โรงงานผลิตและสายการประกอบ การแปรรูป เกษตรอุตสาหกรรม การพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม การท่องเที่ยว เกษตรกรรม วนเกษตร (Agro-forestry) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนกิจกรรมเชิงผลิตภาพที่รัฐกำหนดให้มีลำดับความสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้ฟิลิปปินส์แข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น ไทย ที่มีโครงสร้างพื้นฐานดีกว่าได้มากขึ้น” พร้อมเสริมว่าการให้เช่าระยะยาวจะช่วยให้นักลงทุนมีเวลาฟื้นตัวจากเงินลงทุน และสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่น โรงแรมที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว

จากข้อมูลของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ “การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติหรือFDI ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ลดลงร้อยละ 26.9 เหลือ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ”

หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงฟิลิปปินส์ จำกัดสิทธิการถือครองที่ดินโดยต่างชาติ แต่อนุญาตให้ทำสัญญาเช่าหลายทศวรรษได้

กฎหมายใหม่ของฟิลิปปินส์ ยังให้อำนาจประธานาธิบดีในการกำหนดระยะเวลาเช่าสั้นลง สำหรับนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบริการสำคัญหรืออุตสาหกรรมที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงของชาติ หรือโครงการสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยังลงนามในกฎหมายอีกฉบับเพื่อเพิ่มรายได้รัฐจากการทำเหมืองขนาดใหญ่ด้วยระบบภาษีตามผลกำไร ซึ่งนักลงทุนมองว่าจะช่วยดึงเงินลงทุนใหม่เข้าประเทศนี้ได้เพิ่มขึ้น

ฟิลิปปินส์ได้จัดทำแผนส่งเสริมการลงทุนและการตลาดจากต่างประเทศ ซึ่งแล้วเสร็จไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และเริ่มใช้ต้นปี 2568 ถึง จนถึงปี 2571

ในแผนดังกล่าวตั้งเป้าการเติบโตไว้ร้อยละ  5 ในภาระผูกพันการลงทุนในต่างประเทศในปี 2568 จากนั้นจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ต่อปีในปีต่อๆ ไปจนถึงปี 2571

แผนลงทุนใหม่นี้ จะสอดคล้องกับพัฒนาฟิลิปปินส์และแผนพัฒนาภูมิภาค เพื่อทำให้ฟิลิปปินส์แข่งขันได้ โดยฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งกำลังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างเต็มที่

ในการดึงดูดเงินลงทุนฟิลิปปินส์จะเน้นย้ำถึงข้อได้เปรียบของประเทศ เช่น ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งของชาวฟิลิปปินส์ การเติบโตของภาคธุรกิจเอาท์ซอร์สกระบวนการทางธุรกิจ และข้อตกลงทางการค้าที่ให้สิทธิพิเศษ และยังมีเป้าหมายที่จะจัดการกับความท้าทาย เช่น โครงสร้างพื้นฐานและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ

รัฐบาลฟิลิปปินส์ มองว่า เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและความระมัดระวังของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น แนวทางเชิงยุทธศาสตร์และเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศนั้นเป็นประโยชน์และจำเป็นต่อการรักษาการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาวในฟิลิปปินส์

 ถ้าไปดูเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ พบว่าเติบโตในระดับที่ดี โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 5.8 ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมาย ของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปี 2568 ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนดไว้ระหว่างร้อยละ 5.5 – 6.5 

การเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ได้รับการสนับสนุนจากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ การบริโภคของภาคครัวเรือนที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐานหลังสิ้นสุดช่วงห้ามดำเนินโครงการลงทุนสาธารณะ

ANZ Research ประเมินว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์อาจเผชิญแรงกดดันภายนอกที่เพิ่มขึ้นจากอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยดุลการค้าด้านบริการมีแนวโน้มชะลอลงในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แม้ว่าการส่งออกในภาค Business Process Outsourcing (BPO) และเทคโนโลยีสารสนเทศ(IT) จะยังคงแข็งแกร่ง 

ภาคธุรกิจ IT - BPO กำลังเผชิญความเสี่ยงหลายด้านในระยะสั้น โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากมาตรการภาษี อาจส่งผลต่อความต้องการบริการจากภาคธุรกิจ IT - BPO โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ 

หากความต้องการจากสหรัฐฯ ชะลอลง อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้จากบริการของฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจ IT- BPO ยังเผชิญกับแรงกดดันจากการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้มากขึ้น โดยแรงงานที่มีทักษะต่ำจะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกเอไอมาแทนที่มากที่สุด 

จากปัจจัยเสี่ยงที่ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญ ประเมินกันว่า การขยายสิทธิการเช่าที่ดินของนักลงทุนต่างชาติจากสูงสุด 75 ปี เป็นไม่เกิน 99 ปี จะมาช่วยส่งเสริมการลงทุนและ ศรษฐกิจฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการจ้างงานในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม 

ที่มาข้อมูล : สคต. ณ กรุงมะนิลา (ฟิลิปปินส์)

ที่มารูปภาพ : canva