ดอลลาร์อ่อนค่า - ราคาทองคำพุ่ง

ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวขึ้นแรง เข้าใกล้ระดับ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยล่าสุดราคาทองคำในสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายน 2025 ปรับขึ้น +2% แตะ 3,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่หนุนให้ เงินบาทแข็งค่า ตามมา

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน และความเสี่ยงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอิหร่านและอิสราเอล ยังคงเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาทองคำขยับขึ้น

บรรยากาศตลาดโลก: สหรัฐฯ-ยุโรป

ในฝั่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี S&P500 ปิดลบ -0.39% หลังหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อย่าง Alphabet (-1.5%) และ Amazon (-1.0%) เผชิญแรงขายจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลัง

ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี STOXX600 บวก +0.73% หนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี และกลุ่มพลังงานทางเลือกที่ได้แรงผลักดันจากข่าวการยกเลิกคำสั่งระงับโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในสหรัฐฯ

ตลาดบอนด์และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ แกว่งตัวใกล้ระดับ 4.49% โดยนักลงทุนบางส่วนเริ่มทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว มองเป็นโอกาส “Buy on Dip” แม้ยังมีความกังวลเรื่องงบประมาณสหรัฐฯ

แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้น

กรุงไทยมองว่า ค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อ โดยเฉพาะหากราคาทองคำปรับขึ้นต่อไปสู่แนวต้าน 3,325-3,350 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งอาจหนุนให้เงินบาทแข็งค่าแตะกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังต้องระวังแรงซื้อคืนดอลลาร์ หากไม่สามารถทะลุแนวรับได้ชัดเจน

ปัจจัยที่ต้องจับตาใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า

อัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ (เดือนเมษายน) ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)

รายงานการประชุมของ ECB ที่อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ยในยุโรป

ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

ความคืบหน้า การร่าง Fiscal Bill สหรัฐฯ

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (ยูเครน-รัสเซีย, ตะวันออกกลาง)

สรุปแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้

กรอบค่าเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ในช่วง 32.75-  33.00 บาท/ดอลลาร์

ควรติดตามการเคลื่อนไหวของ ราคาทองคำ และ ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

ตลาดยังอยู่ในภาวะผันผวนสูง จึงควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เช่น Options และสกุลเงินท้องถิ่น