ครม.อนุมัติ งบ 1.85 หมื่นล้านบาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2

ครม.อนุมัติ งบ 1.85 หมื่นล้านบาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ 18,500 ล้านบาทโดยประมาณ 


ส่วนแรกเป็นโครงการในส่วนของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่วนที่ 2 เป็นของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จะไปเพิ่มในเรื่องผู้กู้รายใหม่และดูแลผู้กู้รายเก่า ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของประเทศเช่นเดียวกัน 


โดยทั้งสองเรื่องมีการพิจารณาในคณะรัฐมนตรีและได้รับการอนุมัติ โดยไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ

สรุปข่าว

ครม.ไฟเขียว งบ 1.85 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ 18,500 ล้านบาทโดยประมาณ 


ส่วนแรกเป็นโครงการในส่วนของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่วนที่ 2 เป็นของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จะไปเพิ่มในเรื่องผู้กู้รายใหม่และดูแลผู้กู้รายเก่า ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของประเทศเช่นเดียวกัน 


โดยทั้งสองเรื่องมีการพิจารณาในคณะรัฐมนตรีและได้รับการอนุมัติ โดยไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ

ส่วนงบประมาณที่ยังเหลืออยู่อีกประมาณ 20,000 ล้านบาทนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังต้องไปรอกระบวนการ ซึ่งในวันที่มีการพิจารณาคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์เจรจาต่อรองเรื่องภาษีแล้ววันนั้นยังไม่ตกผลึก แต่วันนี้เริ่มชัดเจนแล้วว่าเราได้อัตราภาษีที่ 19% และเราก็ไม่ได้เสียทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็มีการเปิดสินค้าจำนวนมาก แต่ในสินค้าที่ต้องดูแลเกษตรกรบางกลุ่ม รวมถึงสินค้าที่เราต้องให้ความคุ้มครองก็ยังได้รับการดูแลอยู่นั้น ถือว่าเป็นการได้ข้อตกลงที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์กับประเทศไทย


รัฐมนตรีช่วยคลัง กล่าวว่า เมื่อมีความชัดเจนมาแล้วเช่นนี้ หลังจากนี้ก็คงต้องมาประชุมกันว่างบประมาณที่เหลือในการกระตุ้นเศรษฐกิจของปี 2568 เราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะยังไม่ได้มีการตัดสินใจ แต่จะนำไปใช้ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์เบื้องต้นออกมา

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : Freepik