นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 16 กันยายน 2568 ย้ำว่าภาพรวมของราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากทำ All-Time High ได้เกือบทุกวัน
ซื้อตอนนี้ยังทันหรือไม่ คุณหมอให้คำตอบที่ชัดเจนว่า แม้แนวโน้มหลักจะเป็นขาขึ้น แต่ไม่ควรไล่ซื้อตามราคาที่พุ่งขึ้นไปแล้ว กลยุทธ์ที่ปลอดภัยและได้เปรียบที่สุดคือการรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา
แนวรับทองคำต่างประเทศ (Spot Gold): 3,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับทองคำในประเทศ: 54,000 บาท
กลยุทธ์สำหรับคนมีของ: แนะนำให้ ขายทำกำไรเพียงบางส่วน และถือส่วนใหญ่ต่อเพื่อลุ้นเป้าหมายที่สูงขึ้น
กลยุทธ์สำหรับคนไม่มีของ: ให้รอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับดังกล่าวเพื่อเข้าซื้อ หากตลาดไม่ย่อตัว ก็สามารถทยอยเข้าซื้อสะสมเล็กน้อยตามทิศทางตลาดได้
สรุปข่าว
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 16 กันยายน 2568 ย้ำว่าภาพรวมของราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากทำ All-Time High ได้เกือบทุกวัน
ซื้อตอนนี้ยังทันหรือไม่ คุณหมอให้คำตอบที่ชัดเจนว่า แม้แนวโน้มหลักจะเป็นขาขึ้น แต่ไม่ควรไล่ซื้อตามราคาที่พุ่งขึ้นไปแล้ว กลยุทธ์ที่ปลอดภัยและได้เปรียบที่สุดคือการรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา
แนวรับทองคำต่างประเทศ (Spot Gold): 3,610 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับทองคำในประเทศ: 54,000 บาท
กลยุทธ์สำหรับคนมีของ: แนะนำให้ ขายทำกำไรเพียงบางส่วน และถือส่วนใหญ่ต่อเพื่อลุ้นเป้าหมายที่สูงขึ้น
กลยุทธ์สำหรับคนไม่มีของ: ให้รอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับดังกล่าวเพื่อเข้าซื้อ หากตลาดไม่ย่อตัว ก็สามารถทยอยเข้าซื้อสะสมเล็กน้อยตามทิศทางตลาดได้
จากทิศทางที่แข็งแกร่งกว่าคาด MTS Gold ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมุมมองล่าสุด
เป้าหมายสิ้นปี 2568: ขยับเป้าขึ้นมาที่ 3,800 - 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาทองคำในประเทศมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 56,000 - 57,000 บาท
เป้าหมายระยะยาว (ปี 2569): มีโอกาสสูงที่จะได้เห็นราคาทองคำไทยแตะระดับ 60,000 บาท ซึ่งหมายความว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะต้องทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไป
"60,000 บาทเนี่ยยังคิดว่าน่าจะเป็นปีหน้า ซึ่งน่าจะเห็นแน่ในปีหน้า แต่ปีนี้เนี่ยน่าจะยังเร็วเกินไป" นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงคือ ความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ (พ.ย. และ ธ.ค.) และอาจจะลดอีก 2-4 ครั้งในปีหน้า ซึ่งจะกดดันค่าเงินดอลลาร์และเป็นผลบวกโดยตรงต่อทองคำ
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ต้องจับตา หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาดีขึ้นอย่างกะทันหัน จนทำให้เฟดต้องชะลอหรือหยุดการลดดอกเบี้ย แต่คุณหมอประเมินว่าโอกาสเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีน้อย และถึงแม้จะเกิดขึ้น แนวรับที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นฐานสำคัญของรอบนี้บริเวณ 3,300 - 3,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือ 51,000 บาท) ไม่น่าจะหลุดลงไปได้ง่ายๆ
- จุดซื้อสุดท้าย! ก่อนทองคำพุ่งสู่ 60,000 บาทปีหน้า แนะย่อซื้อรับข่าวเฟดลดดอกเบี้ย
- คนไทยซื้อ "ทองคำ" อันดับ 10 ของโลก "กูรู" ล็อคเป้าราคาทองปีนี้ 57,000 บาท
- “ทองคำโลก” พุ่งนิวไฮทะลุ 3,500 ดอลลาร์ รับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย
- MTS Gold ชี้ทองคำจ่อทะลุ 3,500 ดอลลาร์ลุ้นเป้าปลายปี 3,800 ดอลลาร์ แนะคนมีของ“ถือต่อ”
- นายกสมาคมค้าทองคำ แนะจังหวะราคาทองคำย่อให้เข้าซื้อ-เฟดลดดอกเบี้ย ก.ย. นี้
