ภาพจำของเวียดนาม ที่หลายคนนึกถึง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งรถมอเตอร์ไซค์ เพราะคนท้องถิ่นนิยมใช้ในการเดินทาง ซึ่งที่ตามมาคือมลพิษ ทั้งจากควันพิษของท่อไอเสียและเสียงที่ดังจากเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในตัวเมืองฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ที่ปัจจุบันนี้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ช่วงต้นปีที่ผ่านมาฮานอยเจอกับวิกฤต มีปัญหาหมอกควันพิษปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ จากข้อมูลของ AirVisual มีการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ถึง 15 เท่า
สรุปข่าว
ภาพจำของเวียดนาม ที่หลายคนนึกถึง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งรถมอเตอร์ไซค์ เพราะคนท้องถิ่นนิยมใช้ในการเดินทาง ซึ่งที่ตามมาคือมลพิษ ทั้งจากควันพิษของท่อไอเสียและเสียงที่ดังจากเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในตัวเมืองฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ที่ปัจจุบันนี้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ช่วงต้นปีที่ผ่านมาฮานอยเจอกับวิกฤต มีปัญหาหมอกควันพิษปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ จากข้อมูลของ AirVisual มีการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (พีเอ็ม 2.5) สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ถึง 15 เท่า
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ เป็นปัญหาที่กระทบไปถึงโครงสร้างเศรษฐกิจได้ ดังนั้นทางการเวียดนามจึงได้ตื่นตัวเร่งพยายามผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบ โดยการประกาศผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี ให้มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ สำหรับฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ตั้งเป้าที่จะให้ใช้รถบัสโดยสารอย่างน้อย 50% และรถแท็กซี่ 100 % เป็นรถพลังงานไฟฟ้าภายใน 5 ปี หลังจากนี้ หรือภายในปีค.ศ.2030
รัฐบาลเวียดนามจึงได้หันมาใช้นโยบายหนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในภาคประชาชน โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ สื่อท้องถิ่้นของเวียดนามรายงานว่า ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ออกคำสั่งระบุว่านับตั้งแต่กลางปีหน้า หรือเดือนกรกฎาคม ปี 2026 ที่จะถึงนี้ ทางการจะสั่งแบนหรือห้ามรถจักรยานยนต์และสกูตเตอร์ที่ใช้พลังงานน้ำมันวิ่งบนถนนวงแหวนหมายเลข 1 ของเมืองฮานอย ซึ่งเป็นถนนสายหลักความยาวกว่า 7 กิโลเมตร วนรอบใจกลางเมืองและแลนด์มาร์กสำคัญหลายแห่ง และหลังจากนั้นจะค่อยขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆเป็นระยะๆ เพื่อกันพื้นที่ไม่ให้รถหรือยานพาหนะทุกชนิดที่ใช้น้ำมันวิ่งในเขตเมืองทั้งหมดภายใน 5 ปีข้างหน้านี้
ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH
ที่มารูปภาพ : CANVA
