ทองดิ่ง 200 เหรียญ นายกสมาคมค้าทองคำ ยันยังไม่จบรอบ ชี้แค่ปรับฐานใหญ่ ลุ้นเป้าสิ้นปี 4,500 ดอลลาร์

คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ถึงสถานการณ์ราคาทองคำที่ดิ่งลงอย่างรุนแรงกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาว่า เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นได้ในอดีต โดยคุณจิตติ เคยเตือนนักลงทุนแล้วว่าการที่ราคาทองคำขยับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงมากนั้น "ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่"

การเทขายกระหน่ำครั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการที่กองทุนขนาดใหญ่ในตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market) ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายมหาศาล ได้พร้อมใจกันเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

แม้จะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ แต่นายกสมาคมค้าทองคำยังคงยืนยันว่า "ราคาทองคำยังไม่จบรอบขาขึ้น"

"ผมว่าเป็นการปรับฐาน แต่ก็คิดว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไป ผันผวนสักระยะหนึ่ง ผมว่าอาจจะเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะต้องเด้งขึ้นมาใหม่ เพราะยังมองว่าระยะยาวราคาทองคงจะขยับขึ้นมาได้อีก"

คุณจิตติอธิบายว่า ตลาดฟิวเจอร์สที่ถูกแรงเทขายจนเกิดการบังคับขาย (Force Sell) นั้น เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ นักลงทุนกลุ่มเดิมก็จะกลับเข้ามาซื้อใหม่ ซึ่งจะทำให้ราคากลับมาแรงสูงได้อีกครั้ง

สรุปข่าว

ราคาทองคำโลกเกิดเหตุการณ์ช็อกตลาดครั้งประวัติศาสตร์เมื่อคืนนี้ (21 ต.ค. 68) โดยถูกเทขายอย่างหนักดิ่งลงกว่า 200 เหรียญ สร้างความเสียหายให้นักลงทุนทั่วโลก "นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้ นี่เป็นเพียง "การปรับฐานครั้งใหญ่" ของกองทุนในตลาดฟิวเจอร์ ไม่ใช่การจบรอบขาขึ้น แนะนักลงทุนระยะยาวยังถือได้ และเป็นจังหวะ "ย่อซื้อ" โดยยังคงเป้าหมายสิ้นปีไว้ที่ 4,500 ดอลลาร์

คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ถึงสถานการณ์ราคาทองคำที่ดิ่งลงอย่างรุนแรงกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาว่า เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นได้ในอดีต โดยคุณจิตติ เคยเตือนนักลงทุนแล้วว่าการที่ราคาทองคำขยับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและร้อนแรงมากนั้น "ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่"

การเทขายกระหน่ำครั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการที่กองทุนขนาดใหญ่ในตลาดฟิวเจอร์ส (Futures Market) ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายมหาศาล ได้พร้อมใจกันเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

แม้จะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ แต่นายกสมาคมค้าทองคำยังคงยืนยันว่า "ราคาทองคำยังไม่จบรอบขาขึ้น"

"ผมว่าเป็นการปรับฐาน แต่ก็คิดว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไป ผันผวนสักระยะหนึ่ง ผมว่าอาจจะเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะต้องเด้งขึ้นมาใหม่ เพราะยังมองว่าระยะยาวราคาทองคงจะขยับขึ้นมาได้อีก"

คุณจิตติอธิบายว่า ตลาดฟิวเจอร์สที่ถูกแรงเทขายจนเกิดการบังคับขาย (Force Sell) นั้น เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ นักลงทุนกลุ่มเดิมก็จะกลับเข้ามาซื้อใหม่ ซึ่งจะทำให้ราคากลับมาแรงสูงได้อีกครั้ง

ปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงสนับสนุนให้ราคาทองคำเป็นขาขึ้นในระยะยาวยังคงอยู่ครบถ้วน ได้แก่:

  1. ทิศทางดอกเบี้ยเฟด: ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกถึง 2 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อราคาทองคำ

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน: ความไม่แน่นอนในประเด็นนี้ยังคงสูงมาก โดยมีกระแสข่าวว่าอาจมีการปรับขึ้นภาษีถึง 400% ซึ่งความคลุมเครือนี้จะยังเป็นแรงส่งให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คุณจิตติได้ให้คำแนะนำ โดยแบ่งตามประเภทของนักลงทุน

  • นักลงทุนระยะสั้น (เก็งกำไร/ตลาดฟิวเจอร์ส): ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากตลาดยังคงผันผวนสูงมาก
  • นักลงทุนระยะยาว (ซื้อทองแท่ง): ไม่น่าเป็นห่วง ยังสามารถลงทุนได้

โดยคุณจิตติได้ให้แนวรับสำคัญและเป้าหมายราคาไว้ดังนี้:

  • แนวรับ (จังหวะย่อซื้อ): ไม่น่าจะหลุด 4,000ดอลลาร์ โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ 4,050ดอลลาร์ หรือ "สี่พันเหรียญต้นๆ"

เป้าหมายปลายปี 2568: ยังคงเป้าหมายเดิมไว้ที่ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์