หุ้น "วัสดุก่อสร้าง" เด้งรับน้ำท่วม "หาดใหญ่" หลังฝนหนักสุดรอบ 300 ปี อ่วมกว่าปี 53

โดยเฉพาะบ้านเรือนที่พักอาศัย และสาธารณูปการต่าง ๆ ซึ่งหลังน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้วคาดว่าจะต้องมีการซื้อสินค้าและวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม เป็นปัจจัยหนุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ทั้ง GLOBAL HMPRO และ DOHOME ที่จะได้รับอานิสงส์จากการซ่อมแซมบ้านเรือหลังน้ำท่วมโดยตรง

ขณะที่พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หาดทิพย์ [HTC] กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักและอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาซึ่งสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติโดยมีน้ำท่วมสูงเป็นบริเวณกว้างนั้น HTC

ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ภาคใต้ได้ชี้แจงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่า ณ ขณะนี้ สถานการณ์ยังไม่กระทบกับฐานการผลิตของบริษัทฯ ซึ่งได้รวมศูนย์อยู่ที่โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฉะนั้น บริษัทฯ ยังสามารถผลิตเครื่องดื่มได้ตามปกติ แม้เส้นทางการขนส่งจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่บริษัทจะสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติอย่างรวดเร็วหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

ด้านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ เกิดจากตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 68 จนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่งผลให้เกิดอุทกภัยรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง วัดได้มากกว่า 300-500 มม.

สำหรับจังหวัดสงขลา มีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 วัดได้ 335 มม. ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19-21 พ.ย. 68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 53 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50-2.50 เมตร

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง รวมทั้งคลองสายต่าง ๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ อาทิ คลองวาด คลองอู่ตะเภา คลองต่ำ คลองหวะ รวมถึง คลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) ที่เป็นคลองขุดระบายน้ำสายใหม่ ที่ใช้ผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาไปลงทะเลสาบสงขลาได้เร็วขึ้น

มีศักยภาพในการระบายน้ำได้ 1,200 ลบ.ม./วินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ขณะนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ แต่มีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-5 วัน โดยกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 32 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 14 ชุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สูงเกินกว่าศักยภาพการออกแบบของคลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) แต่ด้วยความสามารถในการระบายน้ำ 1,200 ลบ.ม./วินาที และมีสถานีสูบน้ำบางหยีศักยภาพ 90 ลบ.ม./วินาที ที่ปลายคลอง ยังมีส่วนสำคัญช่วยลดน้ำที่จะไหลเข้าสู่เขตอำเภอหาดใหญ่

ซึ่งหากไม่มีคลอง ร.1 สถานการณ์น้ำที่ อ.หาดใหญ่ อาจรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างมาก อย่างไรก็ดี เมื่อน้ำในคลองไม่ล้นตลิ่งแล้ว กรมชลประทาน จะระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำต่อไป