นักวิทย์ฯ เผย “ช้าง” ช่วยลดโลกร้อนได้

ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ช้างช่วยลดโลกร้อนได้ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ช้างช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของป่าได้ เช่นป่าฝนในแอฟริกา ภายในป่า จะมีต้นไม้อยู่ 2 ประเภท คือต้นไม้เนื้อเบา ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความหนาแน่นของคาร์บอนต่ำ และอีกประเภทคือต้นไม้เนื้อแข็งซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความหนาแน่นของคาร์บอนสูง ต้นไม้เนื้อแข็งจะกักเก็บคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศไว้ในเนื้อไม้ได้มากกว่าต้นไม้เนื้อเบา แต่ต้นไม้เนื้อเบานั้นจะโตเร็วกว่า โดยมันจะสูงขึ้นเหนือต้นไม้อื่น ๆ เพื่อรับแสงแดด ในขณะที่ต้นไม้เนื้อแข็งนั้น จะโตช้า ต้องการแสงแดดน้อย นักวิจัยบอกว่า ช้างนิยมกินใบไม้จากต้นไม้เนื้อเบา ทำให้ “ป่าบางลง” ก็จะช่วยลดการแข่งขันระหว่างต้นไม้ และทำให้มีพื้นที่ว่าง และธาตุอาหารในดินมากขึ้น ช่วยให้ต้นไม้เนื้อแข็งเติบโตได้ดี ก็เท่ากับว่าช้างช่วยกำจัดคู่แข่งในการหาอาหารของต้นไม้เนื้อแข็งหรือ ต้นไม้ที่สามารถกักเก็บคาร์บอนได้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ช้างจึงมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับระดับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ ด้วยการทำให้ต้นไม้ที่กักเก็บคาร์บอนได้สูงมีโอกาสเติบโต แพร่พันธุ์ และช่วยดักจับคาร์บอนได้มากขึ้น แต่ล่าสุดนักวิจัยพบว่า จำนวนช้างลดลงกว่า 80% ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และประเมินไว้ว่า ถ้าหากช้างป่าแอฟริกาสูญพันธุ์ ป่าฝนในแอฟริกา จะสูญเสียความสามารถในการดักจับคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ 6-9% และจะทำให้โลกร้อนขึ้น เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ เป็นฮีโร่ในป่าใหญ่และยังช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย