โลกรวนหนัก! อุณหภูมิพุ่ง น้ำแข็งละลาย อากาศสุดขั้วคุกคามชีวิตและเศรษฐกิจ

Share on Line Share on Facebook Share on X
โลกรวนหนัก!  อุณหภูมิพุ่ง น้ำแข็งละลาย  อากาศสุดขั้วคุกคามชีวิตและเศรษฐกิจ

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ สถานการณ์ล่าสุด COP30 ได้เปลี่ยนจากภาวะ “โลกเดือด” เป็น “โลกรวน”

 

 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกยังคงรุนแรงและส่งสัญญาณเตือนให้มนุษยชาติเร่งดำเนินมาตรการลดผลกระทบล่าสุด องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้เผยแพร่รายงานสถานะสภาพภูมิอากาศโลก (State of the Global Climate Update) สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP30) ณ เมืองเบเลม ประเทศบราซิล ซึ่งชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกรวนได้กลายเป็นความท้าทายที่รุนแรงยิ่งขึ้น

 

รายงานระบุว่าในปี พ.ศ. 2568 อุณหภูมิสูงผิดปกติยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสองหรือสามเท่าที่มีการบันทึกมา นอกจากนี้ 11 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558–2568) ถือเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยทุกปีมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าสูงสุดก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากเดือนมกราคม–สิงหาคม พ.ศ. 2568 ระบุว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 1.42 องศาฯ สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 0.12 องศาเซลเซียส ตอกย้ำถึงความเร่งตัวของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สรุปข่าว

“ดร.สนธิ” เผย รายงานล่าสุดจาก COP30 ระบุว่าภาวะโลกรวนรุนแรงขึ้น อุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ น้ำแข็งขั้วโลกลดลง และระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์สุดขั้ว เช่น น้ำท่วม ความร้อนจัด และไฟป่า ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ระบบอาหาร และเศรษฐกิจหลายภูมิภาค WMO เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร่งตัวขึ้น จำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับโลกและมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ สถานการณ์ล่าสุด COP30 ได้เปลี่ยนจากภาวะ “โลกเดือด” เป็น “โลกรวน”

 

 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกยังคงรุนแรงและส่งสัญญาณเตือนให้มนุษยชาติเร่งดำเนินมาตรการลดผลกระทบล่าสุด องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้เผยแพร่รายงานสถานะสภาพภูมิอากาศโลก (State of the Global Climate Update) สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP30) ณ เมืองเบเลม ประเทศบราซิล ซึ่งชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกรวนได้กลายเป็นความท้าทายที่รุนแรงยิ่งขึ้น

 

รายงานระบุว่าในปี พ.ศ. 2568 อุณหภูมิสูงผิดปกติยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับสองหรือสามเท่าที่มีการบันทึกมา นอกจากนี้ 11 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558–2568) ถือเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยทุกปีมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าสูงสุดก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากเดือนมกราคม–สิงหาคม พ.ศ. 2568 ระบุว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 1.42 องศาฯ สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 0.12 องศาเซลเซียส ตอกย้ำถึงความเร่งตัวของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนและปริมาณความร้อนในมหาสมุทรซึ่งแตะระดับสูงสุดในปี พ.ศ. 2567 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ พื้นที่น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกหลังฤดูหนาวมีระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่พื้นที่น้ำแข็งในแอนตาร์กติกมีระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปี แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในระยะยาวยังดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและชั่วคราวจากปัจจัยทางธรรมชาติ

 

รายงานยังระบุถึงเหตุการณ์สุดขั้วที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและภูมิอากาศ ตั้งแต่ฝนตกหนัก น้ำท่วม ความร้อนจัด ไปจนถึงไฟป่า เหตุการณ์เหล่านี้สร้างผลกระทบแบบลูกโซ่ต่อชีวิตความเป็นอยู่ ระบบอาหาร และการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายภูมิภาค ทำให้เกิดการอพยพและกระทบต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ

สถานการณ์ล่าสุดจาก COP30 ชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกรวนเป็นความท้าทายเร่งด่วนสำหรับมนุษยชาติ ความร้อนสูงผิดปกติ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และเหตุการณ์สุดขั้วทางสภาพอากาศ กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิต ผู้คน ระบบอาหาร และเศรษฐกิจ การตอบสนองต่อวิกฤติครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระดับโลกและมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง

ที่มาข้อมูล : Sonthi Kotchawat

ที่มารูปภาพ : severe-weather.eu