“ปาปัวนิวกินี” เดือด! ออสเตรเลียถอนตัวเจ้าภาพ COP31 ทำลายความหวัง “Pacific COP” พังครืน

Share on Line Share on Facebook Share on X
“ปาปัวนิวกินี” เดือด! ออสเตรเลียถอนตัวเจ้าภาพ COP31 ทำลายความหวัง “Pacific COP” พังครืน

“ปาปัวนิวกินี” แสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน หลังออสเตรเลียประกาศยกเลิกแผนการร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 31 (COP31) ร่วมกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกในปี พ.ศ. 2568 และปล่อยให้ “ตุรกี” ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพไปแทน

“จัสติน ทคัชเชนโก” รัฐมนตรีต่างประเทศของปาปัวนิวกินี เปิดเผยต่อสื่อว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ประเทศในภูมิภาค เนื่องจากแผนการเจ้าภาพร่วมกับออสเตรเลียถูกพูดถึงมาอย่างยาวนาน และน่าจะเป็นโอกาสสำคัญครั้งแรกที่ภูมิภาคแปซิฟิกจะได้เป็นเจ้าภาพการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก

เดิมทีออสเตรเลียพยายามผลักดันแนวคิด “Pacific COP” เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพกับประเทศเกาะซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างหนัก ทั้งปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ทว่าแผนดังกล่าวต้องยุติลงหลังตุรกีไม่ยอมถอยจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

สรุปข่าว

ท่ามกลางวิกฤตโลกร้อนที่กำลังรุนแรงขึ้น ความหวังของหมู่เกาะแปซิฟิกที่จะได้เป็นเจ้าภาพ COP ครั้งประวัติศาสตร์ต้องพังลง เมื่อ “ออสเตรเลีย” ถอนตัวจากการเสนอตัวจัดประชุม COP31 ในปีหน้า สร้างความไม่พอใจให้แก่พันธมิตรในภูมิภาคที่กำลังเผชิญภัยคุกคามจากน้ำทะเลสูงและภัยพิบัติถี่ขึ้น พร้อมจุดคำถามถึงความจริงใจด้านสภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียอีกครั้ง

“ปาปัวนิวกินี” แสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน หลังออสเตรเลียประกาศยกเลิกแผนการร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 31 (COP31) ร่วมกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกในปี พ.ศ. 2568 และปล่อยให้ “ตุรกี” ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพไปแทน

“จัสติน ทคัชเชนโก” รัฐมนตรีต่างประเทศของปาปัวนิวกินี เปิดเผยต่อสื่อว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ประเทศในภูมิภาค เนื่องจากแผนการเจ้าภาพร่วมกับออสเตรเลียถูกพูดถึงมาอย่างยาวนาน และน่าจะเป็นโอกาสสำคัญครั้งแรกที่ภูมิภาคแปซิฟิกจะได้เป็นเจ้าภาพการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก

เดิมทีออสเตรเลียพยายามผลักดันแนวคิด “Pacific COP” เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพกับประเทศเกาะซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างหนัก ทั้งปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น ทว่าแผนดังกล่าวต้องยุติลงหลังตุรกีไม่ยอมถอยจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

ตามข้อตกลงประนีประนอมที่กำลังก่อตัวในการหารือที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ตุรกีจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ COP31 ขณะที่ออสเตรเลียจะเป็นผู้นำในการเจรจาระหว่างรัฐบาลต่าง ๆ ภายในที่ประชุมแทน

ทางการปาปัวนิวกินีแสดงท่าทีไม่เชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของกระบวนการประชุม COP โดยมองว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา การประชุมยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้และยังไม่สามารถกดดันประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ให้รับผิดชอบได้อย่างจริงจัง ทำให้ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกยังคงรู้สึกว่าถูกมองข้าม แม้เป็นพื้นที่ที่เผชิญผลกระทบจากโลกร้อนโดยตรงและรุนแรงที่สุด

ประเทศในแปซิฟิกหวังว่าการเป็นเจ้าภาพร่วมจะช่วยเพิ่มน้ำหนักทางการเมืองและสร้างความตระหนักต่อวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น แต่การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ความหวังนั้นลดลง อีกทั้งยังอาจจุดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความจริงใจของออสเตรเลียด้านความยุติธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากประเทศยังคงพึ่งพาการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นรายได้หลัก

อดีตนายกรัฐมนตรีตูวาลู ซึ่งเป็นประเทศที่อาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้ภายในศตวรรษนี้หากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ลดลง มองว่าการถอนตัวของออสเตรเลียสะท้อนถึงความไม่มุ่งมั่นต่อการสนับสนุนประเทศเสี่ยงภัยในแปซิฟิก พร้อมเสนอว่าประเทศในภูมิภาคอาจต้องทบทวนความสัมพันธ์กับออสเตรเลียใหม่

แม้ภูมิภาคแปซิฟิกจะได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพงาน pre-COP แต่ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมหลัก ซึ่งถูกมองว่าไม่เพียงพอต่อการสร้างแรงกดดันและความสนใจต่อวิกฤตที่พวกเขากำลังประสบอยู่ด้านออสเตรเลียเริ่มส่งสัญญาณถอยจากการเสนอตัวตั้งแต่ต้นสัปดาห์ในการประชุมที่เมืองเบเลง โดยระบุว่าหากไม่ได้รับเลือกก็จะหาวิธีอื่นเพื่อผลักดันประเด็นปัญหาของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกในเวทีโลกต่อไป

แม้ภูมิภาคแปซิฟิกจะได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพงาน pre-COP แต่ตุรกีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมหลัก ซึ่งถูกมองว่าไม่เพียงพอต่อการสร้างแรงกดดันและความสนใจต่อวิกฤตที่พวกเขากำลังประสบอยู่ด้านออสเตรเลียเริ่มส่งสัญญาณถอยจากการเสนอตัวตั้งแต่ต้นสัปดาห์ในการประชุมที่เมืองเบเลง โดยระบุว่าหากไม่ได้รับเลือกก็จะหาวิธีอื่นเพื่อผลักดันประเด็นปัญหาของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกในเวทีโลกต่อไป

การประชุม COP ถือเป็นเวทีสำคัญที่สุดของโลกในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2551–2560 มีประชาชนในหมู่เกาะแปซิฟิกกว่า 320,000 คนต้องอพยพจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ข้อมูลขององค์การนาซาคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลกอาจสูงขึ้นอีกประมาณ 15 เซนติเมตรภายใน 30 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อประเทศหมู่เกาะที่มีพื้นที่ลุ่มต่ำ

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters