ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25 : เรือใบบุกทั้งเกมแต่เจาะนักบุญไม่ได้ เสมอจืด 0-0

ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25 : เรือใบบุกทั้งเกมแต่เจาะนักบุญไม่ได้ เสมอจืด 0-0

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตกชั้นไปแล้ว เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

แมนฯ ซิตี้ ต้องการชัยชนะในเกมนี้ เพื่อรักษาอันดับ 3 ของตัวเองไว้ต่อไป ก่อนที่สัปดาห์หน้าจะต้องลงเล่นในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ทำให้เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวจริงทันทีเพื่อเคาะสนิม หลังหายหน้าไปพักใหญ่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ

ขณะที่เจ้าบ้านอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วเนื่องจากตกชั้นไปแล้วเรียบร้อย แต่พวกเขายังต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนจาก 3 เกมที่เหลือ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องครองสถิติที่ไม่น่าจดจำ นั่นคือเป็นทีมตกชั้นที่มีแต้มน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังก่อนเกมนี้มีอยู่ 11 แต้มจาก 35 เกม ซึ่งเป็นสถิติแต้มน้อยสุดเทียบเท่ากับที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2007-08

สรุปข่าว

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตกชั้นไปแล้ว เปิดบ้านยันเสมอ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างเหลือเชื่อ 0-0

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตกชั้นไปแล้ว เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

แมนฯ ซิตี้ ต้องการชัยชนะในเกมนี้ เพื่อรักษาอันดับ 3 ของตัวเองไว้ต่อไป ก่อนที่สัปดาห์หน้าจะต้องลงเล่นในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ทำให้เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวจริงทันทีเพื่อเคาะสนิม หลังหายหน้าไปพักใหญ่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ

ขณะที่เจ้าบ้านอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วเนื่องจากตกชั้นไปแล้วเรียบร้อย แต่พวกเขายังต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนจาก 3 เกมที่เหลือ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องครองสถิติที่ไม่น่าจดจำ นั่นคือเป็นทีมตกชั้นที่มีแต้มน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังก่อนเกมนี้มีอยู่ 11 แต้มจาก 35 เกม ซึ่งเป็นสถิติแต้มน้อยสุดเทียบเท่ากับที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2007-08

แมนฯ ซิตี้ เปิดฉากครองเกมตั้งแต่เริ่มนาทีแรกของเกมเลยทันที โดยในนาทีที่ 7 ก็ได้ลุ้นประตูก่อน เมื่อ ริโก้ ลูอิส เปิดบอลเข้าเขตโทษ แต่บอลสูงเกินไปทำให้ เจมส์ แม็คเคที โหม่งไม่ถึง

นาทีที่ 24 เป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง เมื่อ ฟิล โฟเด้น เปิดบอลโค้งเข้าเขตโทษ ก่อนที่ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล จะโหม่งชงกลับมา แต่ย้อนหลัง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ไปนิดเดียว

นาทีที่ 32 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกระยะหวังผล แต่ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงโด่งข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรก ทีมเรือใบสีฟ้ายังเจาะเกมรับของเจ้าถิ่นไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม แต่ก็ยังใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง จนกระทั่งนาทีที่ 72 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลไปให้ มานูเอล อาคานจี ได้โหม่ง แต่ก็ไม่ผ่านมือของ อารอน แรมส์เดล นายทวารนักบุญ

เวลาเหลือน้อยลงเรื่อยๆ แมนฯ ซิตี้ ก็ยิ่งเร่งเกมหวังยิงประตูชัย ในนาทีที่ 83 พวกเขาได้โอกาสอีกครั้งเมื่อ ฮาแลนด์ โหม่งชงไปให้ ซาวินโญ่ ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังโดน แรมส์เดล ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด

ช่วงทดเจ็บนาทีแรก แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นจะได้ประตูมากที่สุด เมื่อ โอมาร์ มาร์มูช ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้โอกาสสับไกเต็มข้อ แต่บอลกลับไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ พยายามอย่างหนักแต่ก็ยิงประตูไม่ได้ ทำให้ครบ 90 นาที เซาธ์แฮมป์ตัน ยันเสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0 ได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนจาก 36 เกม รอดพ้นจากการกลายเป็นทีมตกชั้นที่มีแต้มรวมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกได้ทันที

ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ถือว่าค่อนข้างเสียหายที่เก็บ 3 แต้มในเกมนี้ไม่ได้ ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ตกจากอันดับที่ 3 หากว่าการพบกันระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เชลซี ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมนี้มีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น แต่ถ้าจบด้วยการเสมอกัน แมนฯ ซิตี้ จะยังครองอันดับที่ 3 ไว้ได้ต่อไป

ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม

เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-2-1) : อารอน แรมส์เดล : เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส, ยาน เบดนาเร็ค, แจ็ค สตีเฟ่นส์ : เจมส์ บรี, ฟลินน์ ดาวน์ส, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, เวลลิงตัน : ไทเลอร์ ดิบลิง, มาเตอุส แฟร์นันด์ส : คัลมาดีน ซูเลมาน่า

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ริโก้ ลูอิส, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานจี, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, มาเตโอ โควาซิช : เจมส์ แม็คเคที, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์


ส่วนผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีดังนี้

- ฟูแล่ม แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-3

- อิปสวิช ทาวน์ แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1

- วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ ไบรท์ตัน 0-2

- บอร์นมัธ แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : AFP