"อัลไซเมอร์" แนะวิธีออกกำลังกาย เผาผลาญกี่แคลอรี่ให้ผลดีชะลอโรคได้?

"อัลไซเมอร์" แนะวิธีออกกำลังกาย เผาผลาญกี่แคลอรี่ให้ผลดีชะลอโรคได้?

สรุปข่าว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอธีระวัฒน์” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ "ยิ่งฟิต สมองยิ่งรุ่ง "

โดยระบุว่า "มองไปทางไหน ตอนนี้จะเริ่มเห็นคนปลายวัยกลางคน และคนแก่กันเต็มไปหมด เจริญวัยขึ้นตามลำดับ แต่สุขภาพถดถอยเสื่อมไปจนแม้แต่สมองก็ไม่เว้น 

ที่เห็นประกาศ พ่อ แม่ ป้า อา หายจากบ้านเป็นเพราะหลงทางจำทางไม่ได้จากสมองเสื่อม สมองฟีบ ทั้งนี้จำนวนคนหนุ่ม คนสาว วัยที่จะเป็นกำลังของชาติ ตามสัดส่วน จะน้อยลงเรื่อยๆ และประเทศต้องแบกรับคนวัยเพชร ที่สุขภาพไม่ดีนัก ซึ่งก็ยังพอทำเนา แต่ถ้าสมองเสื่อม ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องการพี่เลี้ยงดูแลตลอดเป็นปีๆจนจากไป เห็นภาพแล้วนะฉะนั้นต้องชราแต่ยังแจ๋ว และรวมทั้งต้องแจ๋วตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะโรคทั้งหลายเพาะบ่มเป็นปีๆ กว่าจะออกอาการ โดยเฉพาะสมองเสื่อมจะเพาะพิษในสมองเป็นสิบถึงสิบห้าปี

สมองเสื่อมต่างจากสมองฝ่อตามอายุ โดยที่ตามอายุที่มากขึ้นจะฝ่อส่วนหน้าผาก โดยหน้าที่ของสมองรวมทั้งความจำ การตัดสินใจยังปกติหรือพร่องบ้างนิดหน่อยพอรับได้ สมองฝ่อ สมองฟีบซึ่งมีอัลไซเมอร์เป็นผู้ร้ายสำคัญ จะมีการฝ่อที่สมองความจำปัจจุบัน ทางกลีบขมับทางด้านใน และเมื่อเป็นมากขึ้นจากลืมว่าพูดอะไร ทำอะไร ไปเมื่อครู่นี้ ก็จะลามไปสมองกลีบขมับด้านนอก ไปสมองใหญ่ด้านหน้า ด้านข้าง-หลัง กระทบการคัดหาคำพูด การใช้ภาษา ความเข้าใจ ไปจนถึงอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง 

สิ่งที่สังเกตได้ง่ายๆ จากคนที่ใช้มือถือ กดนู่นดูนี่คราวนี้กดเบอร์ตามที่บอกงกๆเงิ่นๆ จะหาฟังค์ชั่นที่เคยทำประจำไม่ได้ คนที่เคยทำกับข้าวอร่อยมานานเป็นสิบๆปี กลับทำผัด ทำแกง ลืมหวาน ใส่เค็มมากไป รุนแรงจนกระบวนการหุงข้าว ติดเตาตั้งกะทะ สับสนไปหมด 

ลองสังเกตเมื่อไหร่คนที่บ้านทำอาหารรสชาติประหลาดไป ทำถ้วยชามในครัวตกแตก มีดบาดบ่อย น้ำร้อนลวก และถามซ้ำถามซากเป็นต้น ท่าจะแย่แน่แล้ว 

กระบวนการชะลอสมองฟีบทำได้ พิสูจน์แล้ว นั่นคือ ออกกำลังกายและออกกำลังกายสมอง ดังที่หมอเคยเล่าให้ฟังตอน “เซลล์สมองงอกใหม่ได้” ทั้งนี้จะมีเซลล์ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะปริมาณน้อยกว่าที่ตาย แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่มีใหม่เลย การจะให้เซลล์เด็กๆที่เกิดใหม่ กลายเป็นเซลล์สมบูรณ์ ทำงานประสานกับเซลล์เดิมได้ ต้องประสานการออกกำลังกายและใช้สมองร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ข่าวดีล่าสุดในวารสารอัลไซเมอร์ (2016) พบว่าการฟิตร่างกายออกกำลังกาย ไม่ว่าจะทำท่าไหนก็ตาม จากเดิน วิ่ง จ็อกกิ้ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบด เทนนิส เต้นระบำ หรือเล่นกอล์ฟ (แต่กอล์ฟเมืองไทย หมอว่าไม่รุ่ง มีสาวๆแบกถุง เดินนิดเดียว แถมกินเลี้ยงหลังเล่นอีก) แต่ต้องแบกถุงเอง  สามารถชะลอความฝ่อของสมองจนถึงสมองใหญ่ขึ้นได้

การศึกษานี้ทำที่สหรัฐ โดยติดตามคนจำนวน 876 ราย อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ทั้งนี้วัดระดับพุทธิปัญหาของสมองเป็นระยะ แถมด้วยทำคอมพิวเตอร์สมองสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แบบวัดปริมาณเนื้อสมองโดยละเอียดตามติดไป 5 ปี ผลปรากฏว่ายิ่งเผาผลาญพลังงานมากเท่าไหร่ในการออกกำลัง จะชะลอสมองหดได้ โดยเฉพาะในส่วน posterior cingulate gyrus ส่วน precuneus และสมองส่วนท้ายทอย cerebellar vermis สมองส่วนท้ายทอย cerebellum คนส่วนใหญ่จะไม่ให้ความสนใจและไม่คิดว่ามีหน้าที่สัมพันธ์กับอัลไซเมอร์แต่แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องกับระบบความจำหลายส่วน ไม่ใช่แต่เรื่องการทรงตัวรักษาสมดุลอย่างเดียว

การเผาผลาญในระดับ 500 แคลอรี่ให้ผลดีมากในการชะลออัลไซเมอร์ และลดความเสี่ยงไปถึง 2 เท่า ถ้าออกกำลังเหยาะแหยะเช่นตีกอล์ฟอย่างหมอว่า (หมอตีไม่เป็นนะครับ)

 เผาไป 50 แคลอรี่ จะไม่เห็นผลใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่ได้จะไม่ขึ้นกับปัจจัยด้านอายุ ระดับการศึกษา ระดับสติปัญญา

นอกจากส่วนสมองที่กล่าวไปแล้วว่าได้รับประโยชน์โดยตรง สมองกลีบขมับด้านใน Hippocampus ซึ่งเกี่ยวกับการเก็บความจำปัจจุบัน ยังมีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นจากการที่ออกกำลังกายเสริมสร้างระดับของสารปกป้องสมอง BDNF (Brain-Derived Neurotrophic Factor) รวมทั้งทำให้เลือดลมเดินสะดวกส่งออกซิเจนไปสมองเยอะขึ้น

ตั้งแต่ที่พิมพ์บทความสุขภาพหรรษามาจนถึงวันนี้ หมอเรียนว่าอย่าท้อ อย่าคิดเอาทางลัด อย่าคิดว่ารวยแล้วเป็นอะไร ไม่ตาย ไม่พิการ ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับหมอ ไม่ได้ขึ้นกับยาทั้งหมด ยาและหมออาจช่วยได้ระดับหนึ่ง การปรับพฤติกรรม ออกกำลังกาย เลือกอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ จะช่วยให้ชีวิตยืนยาว แบบไม่เป็นภาระให้คนอื่นๆ ทั้งนี้ที่ว่าไปทั้งหมดต้องมีความสุขในการทำ มีความสุขในการให้ และการอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น"



ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เคยให้ข้อมูล โรคอัลไซเมอร์ ไว้ดังนี้ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากผู้สูงอายุมีอาการหลงลืม เช่น จำเหตุการณ์หรือคำพูดที่เพิ่งผ่านมาไม่ได้ สับสนเรื่องต่างๆ มีปัญหาการพูด  ออกนอกบ้านกลับบ้านไม่ถูก ก้าวร้าว ทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ตามปกติ ควรรีบพบประสาทแพทย์หรือแพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ  การรักษามีแบบประคับประคองโรคทางกายและปัญหาทางจิต การป้องกันโรคแทรกซ้อน การดูแลบำบัดด้านจิตใจและปัญหาพฤติกรรม 

ฟื้นฟูสุขภาพกายและจิต สร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เน้นคุณภาพชีวิต โดยให้ผู้ดูแลมีส่วนร่วม ปัจจุบันยังไม่มียาเฉพาะ มีเพียงการใช้ยาเพื่อเพิ่มระดับสารสื่อประสาทในสมองที่ช่วยเพิ่มความจำให้ดีขึ้น และลดปัญหาด้านพฤติกรรมที่เกิดจากตัวโรค


นอกจากนี้ การฝึกบริหารสมองเป็นประจำจะลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรค จึงควรหากิจกรรมฝึกความจำให้แก่ผู้สูงอายุให้ได้ใช้สมองในการทำกิจกรรม เช่น การฝึกถามตอบความรู้ทั่วไป เล่นดนตรีไทย วาดภาพ คิดเลข จะช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้  สิ่งสำคัญคือการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทั้งตัวโรคและตัวผู้ป่วย การให้ความรัก ไม่ถือโทษหรือข่มขู่ ให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ร่วมมือกับแพทย์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี   ดูแลเรื่องอาหาร  ออกกำลังกาย กระตุ้นให้ผู้ป่วยดูแลตนเองให้ได้มากที่สุด เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของโรคอัลไซเมอร์ เช่น การสำลักอาหาร อุบัติเหตุ เป็นต้น  


 






ที่มา ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha / สธ.

ภาพจาก AFP

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ยิ่งฟิต สมองยิ่งรุ่ง
อัลไซเมอร์
หมอธีระวัฒน์
ออกกำลังกายโรงพยาบาล