
สรุปข่าว
อุตสาหกรรมนับว่าบทบาทต่อชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ล้วนเกิดขึ้นจากการผลิตในอุตสาหกรรมทั้งสิ้น แต่มันกลับส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เพื่อให้มนุษย์และสิ่งแวดล้อมยังอยู่ร่วมกันได้ เราก็ต้องค้นหาวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบจากการทำอุตสาหกรรมนั่นเอง
เชื่อว่าในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างพยายามคิดหาวิธี ที่จะช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแก๊สเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และดูเหมือนการเพิ่มปริมาณพื้นที่ป่า เพื่อให้ต้นไม้ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์อาจจะไม่เพียงพอ หากอุตสาหกรรมยังดำเนินต่อไปและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
นักวิจัยจากสมาคมวิทยาศาสตร์ประเทศจีน จึงคิดค้นวิธีที่จะเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นแป้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้เหมือนกับการสังเคราะห์แสงของพื้นที่จะได้แป้งเป็นผลลัพธ์สุดท้าย
วิธีการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นแป้ง นักวิจัยได้นำแก๊สมาผสมกับเมทานอลและเร่งปฏิกิริยาด้วยเอนไซม์ กระบวนการทั้งหมดจะเปลี่ยนให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เปลี่ยนเป็นน้ำตาล ก่อนที่จะเปลี่ยนให้เป็นแป้ง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะผลิตแป้งได้ดีกว่าพืชถึง 8 เท่า
ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาเผยว่าวิธีนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณในการบำรุงป่า ในขณะที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งผืนดินและแหล่งน้ำไว้ได้ถึง 90% เลยทีเดียว เท่ากับเป็นเครื่องทุ่นแรงช่วยต้นไม้ไปอีกทางหนึ่ง แถมยังได้แป้งที่นำไปใช้บริโภคได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับการนำไปใช้ในระดับที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งนักวิจัยจะพยายามพัฒนาให้เอนไซม์ที่ใช้ในการกระตุ้นกระบวนการเปลี่ยนแก๊สเป็นแป้งนี้ ให้สามารถใช้ในปริมาณน้อยลงโดยได้ผลผลิตมากขึ้นกว่าเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Interesting Engineering
- โลกร้อนไม่หยุด อุณหภูมิมหาสมุทรสูงไม่แผ่ว ปะการังฟอกขาวแทบไม่เหลือ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
- วิกฤตอากาศดึงเศรษฐกิจทรุด UN ชี้ต้องลดการปล่อยคาร์บอน เศรษฐกิจโลกถึงจะฟื้น!
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand
