
สรุปข่าว

วันนี้(20เม.ย.63) ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยว่า EEC ได้ให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการแพทย์ ซึ่งเชื่อว่าการที่อุตสาหกรรมการแพทย์แป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-curve) ของภาครัฐที่มีแผนสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการส่งออก (Medical Hub) ในภูมิภาคอาเซียน จะส่งผลให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ECC มุ่งสร้างอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ซึ่งเป็นการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ต่อยอดจากธุรกิจการรักษาพยาบาล และการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพที่ประเทศไทยมีฐานเดิมที่แข็งแรง โดย เพิ่มธุรกิจด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์จากพื้นฐานด้าน อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม และอุตสาหกรรม เวชภัณฑ์จากพื้นฐานด้านการเกษตรและเคมีชีวภาพ
โดยการแพทย์ครบวงจรของไทยประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
1) การให้บริการสมัยใหม่ คือ การให้ บริการด้านการแพทย์ผ่านอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน (eHealth and mHealth) โดยให้คำปรึกษาทางการ แพทย์และให้บริการรักษาทางไกลกับผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล
2) การวิจัยและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและติดตามผลระยะไกล (Remote Health Monitoring Devices) โดยอุปกรณ์วินิจฉัยและติดตามผลระยะไกลสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น วัดความดันโลหิต วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น
3) การวิจัยยาและผลิตเวชภัณฑ์ โดยจะมุ่งเน้นที่การผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilar) ซึ่งคือยาสามัญของยาชีววัตถุต้นแบบ (Biologic) ที่มีการวิจัยและจดสิทธิบัตรแต่สิทธิบัตร หมดอายุลงแล้ว ซึ่งปัจจุบันยาชีววัตถุมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีขนาดใหญ่กว่ายาสามัญทั่วไป
ดร.คณิศ กล่าวต่อไปว่า หลังจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้EEC ต้องพิจารณาการให้ น้ำหนักในอุตสาหกรรมการแพทย์ใหม่ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาด ของไวรัสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งโรคซาร์ เมอร์ส อีโบลา จนถึงโควิด-19 ซึ่งเป็นไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุปกรณ์ทดสอบการติดเชื้อ วัคซีนป้องกันไวรัส และเพิ่มอุปกรณ์การแพทย์-ห้องฉุกเฉินรองรับสถานการณ์โรคระบาดมากขึ้น
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand