นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE (13 พ.ค. 68) ว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงนี้ ซึ่งเกิดจากตลาดรับรู้ข่าวดีทางการเงินโลก (แต่เป็นข่าวร้ายกับทอง) ถือเป็น จังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวในการทยอยเข้าซื้อสะสม โดยมองแนวรับสำคัญที่ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวรับแข็งแกร่งที่ไม่น่าหลุดคือ 3,165 ดอลลาร์ฯ (หรือราว 50,000 บาทสำหรับทองไทย) ขณะที่ยังคงเป้าหมายราคาทองคำปลายปี 2568 ที่ 3,800 ดอลลาร์ฯ และมีโอกาสเห็น 4,000 ดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นปีหน้า
สรุปข่าว
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE (13 พ.ค. 68) ว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงนี้ ซึ่งเกิดจากตลาดรับรู้ข่าวดีทางการเงินโลก (แต่เป็นข่าวร้ายกับทอง) ถือเป็น จังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวในการทยอยเข้าซื้อสะสม โดยมองแนวรับสำคัญที่ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวรับแข็งแกร่งที่ไม่น่าหลุดคือ 3,165 ดอลลาร์ฯ (หรือราว 50,000 บาทสำหรับทองไทย) ขณะที่ยังคงเป้าหมายราคาทองคำปลายปี 2568 ที่ 3,800 ดอลลาร์ฯ และมีโอกาสเห็น 4,000 ดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นปีหน้า
ทองคำปรับฐานระยะสั้น - ทดสอบแนวรับ $3,200
นพ.กฤชรัตน์ อธิบายว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนถึงต้นสัปดาห์นี้ (ศุกร์ลง 80 เหรียญ, จันทร์ลงอีก 80 เหรียญ, อังคารเช้าลง 20 เหรียญ) ก่อนจะเริ่มมีการดีดตัวกลับ โดยปัจจุบัน (บ่ายวันที่ 13 พ.ค.) ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,250 ดอลลาร์ฯ (ขึ้นจากจุดต่ำสุดช่วงเช้าที่ 3,230 ดอลลาร์ฯ) การปรับลงนี้เกิดจากข่าวที่ทำให้ตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าชั่วคราว
"สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าคืนนี้ตลาด COMEX ไม่ทำ Low ใหม่ที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ฯ ก็แสดงว่าโอกาสที่ราคาระยะสั้นจะหยุดตกก็มีสูง" นพ.กฤชรัตน์ กล่าว
แนวรับสำคัญ: $3,165 (ทองไทย 50,000 บาท) - ทองคำเปลี่ยนสถานะเป็น Reserve Asset
สำหรับแนวรับสำคัญ นพ.กฤชรัตน์ ให้ไว้ดังนี้:
- ทองไทย: ระยะสั้น 51,000 บาท/บาททองคำ และระยะกลาง 50,000 บาท/บาททองคำ (ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าหลุด)
- ทองคำโลก: 3,165 ดอลลาร์ฯ/ออนซ์ เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งมาก (ระดับ Fibonacci 50% และใกล้เคียงเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญหลายเส้น) ซึ่งเทียบเท่ากับทองไทยที่ 50,000 บาท
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทองคำยังน่าสนใจและมีแนวรับแข็งแกร่งคือ การที่ทองคำกำลังเปลี่ยนสถานะจากเพียงสินค้าโภคภัณฑ์มาเป็น สินทรัพย์สำรอง (Reserve Asset) ที่ธนาคารกลางและกองทุนต่างๆ ทั่วโลกเข้าซื้อสะสมเพื่อชดเชยความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์ที่เสื่อมค่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 3,100-3,200 ดอลลาร์ฯ ได้ แม้จะมีข่าวลบระยะสั้น จะเป็นการยืนยันสถานะนี้ และสร้างฐานที่แข็งแกร่งเพื่อปรับขึ้นต่อในระยะยาว
กลยุทธ์ลงทุน: ระยะยาวทยอยซื้อ - เก็งกำไรสั้นควรรอดู
- นักลงทุนระยะยาว (ทองคำแท่ง): "แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อโดยแบ่งเงินลงทุน จังหวะที่ราคาลงเป็นจังหวะที่น่าซื้อ"
- นักเก็งกำไรระยะสั้น (Futures): "อาจจะต้องหยุดรอดู เพื่อความชัดเจนว่าระยะสั้นยังมีโอกาสลงต่อหรือไม่" ต้องรอสัญญาณยืนยันการหยุดลงของราคา โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวในตลาด COMEX ในช่วง 1-2 คืนนี้
เป้าหมายราคา: ปีนี้ $3,800 - ปีหน้าลุ้น $4,000 (ทองไทย 60,000 บาท)
นพ.กฤชรัตน์ ยังคงเป้าหมายราคาทองคำปลายปี 2568 ไว้ที่ 3,800 ดอลลาร์ฯ และมองว่ามีโอกาสเห็น 4,000 ดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งหากถึงระดับนั้น ราคาทองคำไทยมีโอกาสแตะ ประมาณ 60,000 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากฐาน $3,500 = 55,000 บาท และเผื่อผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อาจแข็งค่าขึ้นเมื่อทองขึ้น)
ปัจจัยที่จะทำให้ราคาไปถึงเป้าหมายได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับความผันผวนของนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและหนี้สินจำนวนมหาศาลของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยที่หนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะกลางถึงยาว
