หุ้นไทยเสี่ยงขาลง ! ปัจจัยใน-นอกประเทศรุมเร้า คัด 5 หุ้นหลบภัย

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (11ก.ค.-15ก.ค.) ผันผวนทิศทางขาลงจากปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศรุมเร้า   โดยปัจจัยหลักที่ต้องติดตามคือ เงินเฟ้อสหรัฐเดือนมิถุนายนที่จะประกาศในวันที่ 13 ก.ค.นี้ Bloomberg consensus คาดว่าจะอยู่ที่ 8.8%จากเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 8.6% ถ้ามากกว่าคาดจะทำให้ตลาดปรับตัวลงอีกรอบ และเป็นการตอกย้ำให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ถ้าต่ำกว่าที่ประเมินไว้ตลาดจะสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

" จากข้อมูลที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการประชุมเฟด 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าตลาดจะผันผวนปรับลง  โดยการประชุมครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลง จะทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย"

นอกจากนี้ติดตามสงครามทางการค้าระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะยืดเยื้อหรือไม่ ส่วนราคาน้ำมันคาดว่าจะรีบาวด์กลับหลังราคาร่วงแรงมาก่อนหน้านี้ รวมถึงเกาะติดการประกาศงบไตรมาส 2 ของธนาคารพาณิชย์ คาดกำไร 42,875 ล้านบาทโต 20.3% YoY  เนื่องจากสินเชื่อฟื้นตัวหลังจากมีการเปิดประเทศประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นทำให้รายได้สินเชื่อเติบโต  ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เช่น การขายประกันกองทุนรวม  แต่ถ้าเทียบQoQติดลบ 3% โดยหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการออกมาดีอย่างเช่น BBL,SCB และTTB เติบโตทั้งYOY,QOQ  

นอกจากนี้ในวันที่ 15 ก.ค. DTAC  ประกาศงบ นอกจากนี้ให้ติดตามการแพร่ระบาดโควิดทั่วโลกเพิ่มขึ้น 30% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสายพันธุ์ BA.4 - BA.5  รวมถึงไทยที่ตัวเลขก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งหากรัฐถ้าใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดโควิดจะมีผลต่อหุ้นในกลุ่ม  reopening

นอกจากนี้หากจีนล็อกดาวน์เพิ่มจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ด้านกลยุทธ์ การลงทุนเน้น Trading buy ลงซื้อขึ้นขาย ซึ่งมองว่าหุ้นไทยไปไหนไม่ได้ไกล เน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/65จะออกมาดี  หุ้นพื้นฐานดีแต่ปรับตัวลงมาลึกหุ้นได้รับประโยชน์จากบาทอ่อนและดอกเบี้ยขาขึ้น นำโดยหุ้น BBL,PTTEP,CPALL,CRC ,BCH  ประเมินกรอบแนวรับ 1,523 จุดแนวต้าน 1,577 จุด

ที่มา นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา  

ภาพประกอบ   บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย)